[5 ขั้นตอนพื้นฐาน : สัมภาษณ์งานยังไงให้ได้งานกับบริษัทญี่ปุ่น ]
ในปัจจุบันมีคนหางานจำนวนมากที่สนใจทำงานในบริษัทญี่ปุ่น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง สวัสดิการ และ วัฒนธรรมการทำงาน แต่ยังรู้สึกไม่มั่นใจว่าจะเริ่มอย่างไรดีถึงจะสามารถประสบความสำเร็จโดยเริ่มต้นที่การสัมภาษณ์งานได้ (ไม่นับขั้นตอนของการหางาน เพราะที่ PASONA เราพร้อมให้คำแนะนำและหางานในบริษัทญี่ปุ่นมากมายทั่วไทยที่ตรงกับคุณสมบัติของผู้หางาน เพื่อให้การหางานในบริษัทญี่ปุ่นนั้นง่ายสำหรับคุณ)
ในบทความนี้เราขอแนะนำถึงวิธีการเตรียมตัวก่อนวันสัมภาษณ์และการวางตัวในวันสัมภาษณ์สำหรับบริษัทญี่ปุ่น
- เตรียมความพร้อม
เก็บรวบรวมข้อมูลของบริษัทที่สนใจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากคุณต้องการทำงานในบริษัทญี่ปุ่น คุณควรเก็บข้อมูลและทำวิจัยว่าบริษัทมีลักษณะอย่างไร มีวัฒนธรรมองค์กรอย่างไร และสามารถเข้ากับบุคลิก ตัวตนของเราหรือไม่
บริษัทญี่ปุ่นจำนวนมากที่มีสำนักงานกระจายอยู่ทั่วโลก คุณควรรู้ว่าบริษัทมีการจัดกิจกรรมอะไรบ้างและมีสาขาที่ไหนบ้าง การหางานในบริษัทที่มีสาขาอยู่ทั่วโลกอาจจะหาข้อมูลยากหน่อยว่าในประเทศของคุณนั้นมีบริษัทนี้อยู่หรือไม่ ซึ่งเราสามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยการฝากประวัติกับบริษัทจัดหางาน และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของบริษัทจัดหางานเหล่านี้ในการจับคู่งานที่เหมาะสมให้กับคุณ นอกจากนี้บริษัทจัดหางานจะให้ข้อมูลที่จำเป็นของตัวบริษัทโดยที่คุณแทบไม่ต้องไปหาเองเลยด้วยซ้ำ
ยิ่งไปกว่านั้นการหางานกับบริษัทจัดหางาน คุณจะได้รับโอกาสได้งานในตำแหน่งที่ไม่ได้เปิดรับแบบสาธารณะ ซึ่งก่อนวันสัมภาษณ์ บริษัทจัดหางานจะแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่เพียงพอต่อการตอบคำถามต่อผู้สัมภาษณ์ แต่อย่างไรก็ตามคุณก็ควรหาข้อมูลด้วยตัวเองอีกครั้งเพื่อให้ทราบว่าในบริษัทมีปัจจัยอะไรที่ทำให้คุณอยากสมัครในบริษัทนี้บ้าง เพราะเมื่อคุณถูกถามว่าชอบอะไรในบริษัทถึงอยากมาทำงานด้วย คุณก็จะสามารถตอบได้อย่างฉะฉาน และสร้างความประทับใจให้กับผู้สัมภาษณ์ได้ไม่น้อยเลย
การแนะนำตัวด้วยความจริงใจก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรเตรียมไว้ เพราะไม่เพียงแต่การสัมภาษณ์ในบริษัทญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ก็ยังช่วยในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย การแนะนำตัวสั้นๆ (ไม่เกิน 3 นาที)ถือเป็นมารยาทที่สามารถสร้างความประทับใจแรกได้กับคนญี่ปุ่นได้ โดยในคำแนะนำตัวสามารถใส่ประสบการณ์การทำงานหรือทักษะเด่นที่คุณมีเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถทำประโยชน์อะไรให้กับบริษัทได้บ้าง
และการเตรียมตัวที่สำคัญที่สุดก็คือ การรวบรวมความมั่นใจ เพราะในหลายๆครั้งความมั่นใจมักจะต้องมาจากข้อมูลและการเตรียมตัว อาทิ การมีคำตอบที่ดีพอสำหรับคำถามที่คาดว่าจะถูกถาม ข้อดี ข้อเสีย จุดอ่อน จุดแข็ง ซึ่งในขั้นตอนนี้คุณสามารถขอความช่วยเหลือจากบริษัทจัดหางานที่มีประสบการณ์สูงและสามารถแนะนำคุณได้ดีในทุกๆด้าน
- เครื่องแต่งกาย
ถ้าหากคุณสมัครงานกับอู่ซ่อมรถ คุณสามารถใส่กางเกงยีนส์และเสื้อยืดไปได้ แต่ในขณะนี้คุณกำลังจะไปสมัครงานกับบริษัทญี่ปุ่น โดยเฉพาะบริษัทที่อยู่ในเมืองใหญ่ๆ ดังนั้นการแต่งกายของคุณจึงควรแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ
หากเป็นบริษัทญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนาน และมีความเป็นญี่ปุ่นสูง การแต่งกายก็ควรเรียบร้อยและสะอาดสะอ้าน ไม่มีเครื่องประดับมากจนเกินไป และควรเป็นแบบเรียบง่าย
ยกตัวอย่างเช่น สำหรับผู้ชายควรใส่สูทสีดำ และ รองเท้าหนังสีดำที่เข้ากับสูท ประกอบกับ เสื้อเชิ้ตสีขาว หรือสีอ่อน ผูกด้วยเนคไทสีดำไม่ใส่เจลแต่งผมมากเกินไป เล็บควรตัดสั้น ทำความสะอาดมาเป็นอย่างดี
สำหรับผู้หญิงก็ไม่แตกต่างกันมากนัก ควรใส่สูทสีดำ ไม่ใส่เสื้อสีฉูดฉาด กระโปรงสีดำคลุมเข่า ใส่หัวเข็มขัดที่เข้ากันกับกระโปรง ไม่ควรใส่รองเท้าที่มีส้นสูงมากจนเกินไป (ไม่เกิน 5 ซม.) และไม่ควรใส่เครื่องประดับที่มากจนเกินไป
คุณอาจจะรู้สึกว่าบริษัทญี่ปุ่นเคร่งครัดจัง แต่เพราะมันเป็นการสัมภาษณ์งานครั้งแรก ดังนั้นความประทับใจแรกควรทำให้ดีที่สุดและถูกต้องที่สุดตามความต้องการของลักษณะบริษัทญี่ปุ่น เมื่อได้บรรจุเข้าทำงานแล้วหลังจากนั้นจึงค่อยๆสังเกตเพื่อนร่วมงานรอบตัวว่ามีการแต่งตัวแบบไหน คุณจึงสามารถปรับสไตล์ให้ไม่เคร่งครัดมากขึ้นได้ โดยในส่วนนี้ก็สามารถขอคำปรึกษาจากบริษัทจัดหางานที่มีประสบการณ์ในการส่งคนสัมภาษณ์งานอยู่เสมอเช่นกัน
- การไปถึงสถานที่สัมภาษณ์และการทักทาย
“ความตรงต่อเวลา” คือสิ่งสำคัญในการนัดพบกับคนญี่ปุ่น โดยเฉพาะในวันสัมภาษณ์ที่ควรต้องวางแผนการเดินทางให้ดี เพื่อให้ไปถึงสถานที่สัมภาษณ์ได้ตรงเวลา การจราจรในประเทศไทยโดยเฉพาะกทม.มักคับคั่งอยู่เสมอ ดังนั้นคุณจึงควรวางแผนการเดินทางให้ดี มีการวางแผนสำรอง และใช้ระบบขนส่งที่สามารถคาดการณ์เวลาที่ใช้ในการเดินทางได้มากที่สุด แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ควรไปถึงเร็วจนเกินไป เพราะการรอหน้าบริษัทที่จะไปสัมภาษณ์เป็นเวลามากกว่าครึ่งชม.นอกจากจะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้น และกังวลแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้มีการวางแผนที่ดีนักเท่าไหร่
ช่วงเวลาที่ควรไปถึงสถานที่สัมภาษณ์ที่ดีที่สุดคือ ก่อนถึงเวลาสัมภาษณ์ประมาณ 10 นาที และแจ้งการมาประมาณ 5 นาทีก่อนเวลาสัมภาษณ์
เมื่อคุณไปถึงที่สัมภาษณ์ คุณควรทักทายคนที่คุณพบด้วยรอยยิ้ม และแจ้งกับเจ้าหน้าที่ต้อนรับเรื่องการเข้าสัมภาษณ์ และหากเจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งเส้นทางการเดินไปยังห้องสัมภาษณ์ คุณควรสอบถามให้ชัดเจน และไม่ลังเลที่จะสอบถามในสิ่งที่คุณไม่รู้
เมื่อถึงหน้าห้องสัมภาษณ์ ให้เคาะประตู 3 ครั้งและพูดว่า 失礼します(Shitsurei shimasu, ขออภัยในการเสียมารยาท). และเมื่อคุณได้ยินผู้สัมภาษณ์พูดว่า どうぞ (dōzo,เชิญเข้ามาได้) คุณจึงเปิดประตูเข้าไป และปิดประตูให้เรียบร้อย พร้อมหันหน้าไปหาผู้สัมภาษณ์และพูดว่า 失礼しますอีกครั้ง. โค้ง 1 ครั้ง (ในขณะที่โค้ง ผู้หญิงผสานมือด้านหน้า ส่วนผู้ชายนำมือไว้ด้านข้างลำตัว) และจึงค่อยเดินไปที่เก้าอี้
แต่อย่าพึ่งนั่งในทันที ให้ไปยืนข้างๆเก้าอี้ และแนะนำตัวว่า (ชื่อตัวเอง)と申します。どうぞよろしくお願いします (ชื่อตัวเอง to mōshimasu. Dōzo yoroshiku onegaishimasu. ที่แปลว่า ผม/ดิฉันชื่อ…….. ,ยินดีที่ได้พบ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ/ค่ะ) เป็นมาตรฐานในการทักทายที่คนญี่ปุ่นมักใช้กัน
หลังจากนั้นผู้สัมภาษณ์จะแจ้งให้นั่งได้ ให้นั่งอย่างเรียบร้อย ไม่ทิ้งตัว นั่งหลังตรง และนำมือวางไว้บนตัก โดยจะต้องรักษาการนั่งแบบนี้ไว้ตลอดการสัมภาษณ์ โดยคุณสามารถจดบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ไม่ควรละสายตาจากผู้สัมภาษณ์
- ภาษาที่ใช้
หากคุณทำงานในบริษัทญี่ปุ่น หรืองานที่ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่น อย่างน้อยคุณก็ควรรู้วิธีใช้งานภาษาญี่ปุ่นในระดับคุยธุรกิจ (敬語, keigo) และแสดงการให้เกียรติเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างานในอนาคต และยิ่งไปกว่านั้นหากคุณต้องทำงานกับลูกค้าชาวญี่ปุ่น คุณควรเรียนรู้การใช้งานภาษาญี่ปุ่นสำหรับธุรกิจด้วย
และยิ่งในกรณีที่คุณสนใจทำงานในประเทศญี่ปุ่น การใช้ภาษาญี่ปุ่นจึงจำเป็น แต่อย่างไรก็ตามความต้องการระดับภาษาญี่ปุ่นก็แตกต่างกันขึ้นอยู่กับตำแหน่งงานที่หาอยู่ หากไม่มั่นใจให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่บริษัทจัดหางานหรือ หน่วยงานทรัพยากรบุคคลของบริษัทนั้นๆ
และอีกหนึ่งคำถามที่มักถูกถามในการสมัครเข้าทำงานในบริษัทญี่ปุ่นก็คือ “ทำไมจึงสนใจในญี่ปุ่นและภาษาญี่ปุ่น” ซึ่งคุณควรเตรียมคำตอบที่เหมาะสมและน่าสนใจเพียงพอ ซึ่งคนส่วนใหญ่มักตอบว่า สนใจในอนิเมะและหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งก็เป็นคำตอบที่น่าสนใจ แต่ควรใส่เหตุผลที่เกี่ยวข้องกับตัวงานที่คุณสมัครไปด้วยจึงจะดีที่สุด
ซึ่งหากคุณนึกไม่ออกว่าจะมีคำถามอะไรบ้างที่จะถูกถามในการสัมภาษณ์ คุณสามารถสอบถามและขอคำแนะนำกับทางเจ้าหน้าที่ของบริษัทจัดหางานได้เลย
- วิธีการจบการสัมภาษณ์อย่างสวยงาม
โดยสรุปแล้ว สิ่งที่คุณควรทำก็คือ การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทและตำแหน่งงานที่คุณสนใจ – การไปถึงสถานที่สัมภาษณ์ให้ตรงเวล่ – การแนะนำตัวเองอย่างมืออาชีพ และการเตรียมคำตอบที่เหมาะสมของแต่ละคำถามล่วงหน้า และสิ่งสุดท้ายที่ต้องทำก็คือการจบการสัมภาษณ์ให้สวยงามและต้องทำอะไรต่อหลังจากจบการสัมภาษณ์แล้ว
เพื่อทำให้ผู้สัมภาษณ์แน่ใจว่าคุณนั้นเหมาะสมกับตำแหน่งที่คุณสมัคร คุณควรพูดทิ้งท้ายการสัมภาษณ์อย่างสมบูรณ์ ช่วงจังหวะจบเป็นช่วงที่เหมาะสมในการเน้นย้ำความสนใจที่มีต่องานและต้องการทำงานกับบริษัท รวมทั้งเหตุผลดีๆที่ทำให้คุณเหมาะสมกับตำแหน่งงาน คุณควรเตรียมคำถามที่ต้องการถามกับผู้สัมภาษณ์เอาไว้ด้วยเพื่อแสดงความสนใจที่มีต่อการทำงาน และอนาคตการทำงานของคุณ
นอกจากนี้คุณก็ควรขอบคุณผู้สัมภาษณ์ที่สละเวลาอันมีค่ามาสัมภาษณ์ รวมทั้งสอบถามขั้นตอนหลังจากนี้ และท้ายที่สุดคุณควรเขียนอีเมลเพื่อขอบคุณอีกครั้ง ซึ่งในส่วนนี้หากคุณมีบริษัทจัดหางานช่วยแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเพิ่มเติม เพราะบริษัทจัดหางานจะมาแจ้งขั้นตอนหลังจากนั้นและผลการสัมภาษณ์ทันที
ท้ายที่สุด หากคุณเป็นมือใหม่ในการสัมภาษณ์งานกับบริษัทญี่ปุ่น และดูเหมือนจะเครียด หวาดกลัวในช่วงแรก แต่เราอยากบอกว่า ไม่มีใครในโลกที่ไม่เคยมีครั้งแรก และถ้าหากผ่านครั้งแรกไปได้แล้ว ครั้งที่สองหลังจากนั้น จะไม่ยากเกินความสามารถและความตั้งใจของคุณแน่นอน
ท่านใดที่กำลังหางานที่สามารถแสดงศักยภาพของตัวเองให้ได้มากที่สุดในบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย ทาง PASONA ก็ยินดีเป็นอีกกำลังสำคัญในการสนับสนุนช่วยให้ท่านหางานที่ใช่ได้โดยเร็วนะครับ
………………………………………………………
สามารถติดตามข่าวสาร ตำแหน่งงานจากบริษัทญี่ปุ่นทั่วประเทศ และงานอบรมออนไลน์ได้ในเฟสบุ๊ค PASONA ที่นี่ได้เลย
FREE Registration : สามารถลงทะเบียนข้อมูลเบื้องต้นเพื่อหางานและฝากใบสมัครโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่
>>> https://pasona.co.th/registration-form/ <<<
………………………………………………………
หางานที่ใช่ ได้งานที่ชอบ ต่อยอดความฝัน ไปให้ถึงเป้าหมาย กับ PASONA
☎️ Contact: Career Consultant
Phone: 02-108-1250
Email: info@pasona.co.th
หางาน หาคน หาคอร์สอบรม และ บริการต่างๆที่ช่วยพัฒนาองค์กร ได้ที่ PASONA
#หางาน #สมัครงาน #หางานกทม. #หางานทำ #หางานบริษัทญี่ปุ่น #ฝากประวัติ #ค้นหางาน #PASONA #สัมภาษณ์งาน
บทความที่เกี่ยวข้อง
“ความโปร่งใสของเงินเดือน”ปัจจัยที่มีผลต่อแรงบันดาลใจในการทำงาน
“การจ่ายค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกับงานที่ให้”—เงื่อนไขง่ายๆที่รู้กันอยู่แล้วในโลกของการทำงาน
“คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”อีกหนึ่งคำถามที่มักถูกถามในการสัมภาษณ์งาน
ในการเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน สิ่งสำคัญก็คือการเตรียมคำตอบสำหรับคำถามที่มักถูกถามในห้องสัมภาษณ์ คำถามหนึ่งที่เห็นได้บ่อยครั้งก็คือ “คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”
ตอบอย่างไรให้ดูดี กับคำถามสัมภาษณ์”เงินเดือนที่คุณคาดหวัง”
เพื่อหางานที่มีลักษณะและเงินเดือนที่เหมาะสมกับความต้องการ การต่อรองเงินเดือนมักไม่ได้เกิดขึ้นในขั้นตอนที่บริษัทตัดสินใจจ้างงาน มักเกิดขึ้นในหลายๆขั้นตอนก่อนหน้านั้น
สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของเรา
Thailand Head Quarter
26th Floor, Sathorn Square
Office Tower,
98 North Sathorn Road, Silom,
Bangrak, Bangkok 10500, Thailand
TEL: +662-108-1250
E-mail: info@pasona.co.th
เตรียมตัวสัมภาษณ์อย่างไร ให้ได้งาน
การสมัครงานทุกวันนี้ มีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ด้วยความทันสมัย และเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้เราสามารถสมัครงานผ่านเว็บไซต์ได้ หรือส่งประวัติผ่านอีเมลล์ได้ แต่ขั้นตอนสำคัญที่สุดในการที่เราจะได้ร่วมงานกับบริษัทที่เราใฝ่ฝัน ก็คือ การสัมภาษณ์งาน ซึ่งเราจะได้มีโอกาสเข้ามาดูบรรยากาศการทำงาน สถานที่ทำงาน รวมถึงได้พบกับบุคคลากรของบริษัทนั้นๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่เราจะได้แสดงตัวตนของเรา และสร้างความประทับใจให้กับบริษัทได้โดยตรง
เพราะฉะนั้น การเตรียมความพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งาน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก นอกจากเรื่องบุคลิกภาพ การแต่งกายที่เราได้พูดถึงในบทความก่อนหน้านี้แล้ว (สามารถอ่านได้ที่บทความนี้ : https://pasona.co.th/b/1144)
การเตรียมพร้อมสำหรับคำถาม รวมถึงข้อมูลบริษัทก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน หรืออาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะเป็นวัดทัศนคติ และความเหมาะสมสำหรับตำแหน่งงานนั้นๆอย่างแท้จริง แน่นอนว่าเราไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์จะถามกับเราได้ แต่เราสามารถเตรียมตัวสำหรับแนวคำถามต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับตัวเองได้ ถ้าอย่างนั้นเรามาเตรียมความพร้อมกันดีกว่าค่ะว่าคำถามที่มักจะเจอในการสัมภาษณ์งานมีอะไรบ้าง ซึ่งแนวคำถามต่างๆที่พบเจอได้บ่อยครั้งในการสัมภาษณ์ จะขอยกตัวอย่างจากเว็บไซต์หางานชื่อดัง JobsDB.com
คำถาม : เล่าเรื่องคุณให้เราฟังหน่อย
แนวทางการตอบ : คำถามนี้แม้จะเหมือนกับทางบริษัทอยากรู้จักคุณเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่ควรเล่าเรื่องส่วนตัว เช่น คุณเป็นคนอย่างไร ชอบอะไรหรือมีงานอดิเรกอะไร ควรเน้นเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของคุณ เรียนจบอะไรมา มีประสบการณ์การทำงานอะไรมาบ้าง และเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเตรียมตัวเป็นผู้สมัครที่ดีที่สุดของงานนี้ โดยในแต่ละเรื่องที่คุณเล่าควรมีเหตุการณ์หรือมีการยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมประกอบด้วย
คำถาม : ทำไมเราควรจ้างคุณ
แนวทางการตอบ : คุณสามารถตอบได้ว่าคุณเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้โดยให้เหตุผลที่เหมาะสมเพิ่มเติม ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อจะตอบคำถามนี้ให้ได้ดีคือ รายละเอียดของตำแหน่งงานและบริษัทที่คุณสมัคร และสิ่งที่คุณจะสามารถให้กับองค์กรได้ ความรู้ความสามารถใดที่มีแต่อาจจะยังไม่เกี่ยวกับตำแหน่งนี้โดยตรงก็สามารถยกขึ้นมาพูดได้หากคุณเล็งเห็นว่ามันจะมีประโยชน์กับองค์กรได้ในอนาคต
คำถาม : ทำไมคุณจึงสนใจงานนี้/ ทำไมคุณจึงลาออกจากที่ทำงานเก่า
แนวทางการตอบ : สำหรับสองคำถามนี้ให้ตอบโดยเน้นไปที่ตัวงาน ไม่ใช่เงินเดือน สวัสดิการที่ดีกว่า เช่น สนใจงานนี้เพราะมีความท้าทายในตัวงานที่คุณคิดว่าคุณสามารถทำได้จากคุณสมบัติที่คุณมี โดยยกเหตุผลและตัวอย่างด้วย เช่นเดียวกับคำถามเรื่องการลาออกจากที่เก่าก็สามารถตอบได้ในทำนองเดียวกัน โดยควรหลีกเลี่ยงการพูดถึงปัญหาความสัมพันธ์กับเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานหรืออะไรก็ตามที่เป็นการพูดในแง่ไม่ดีถึงบริษัทเก่าของคุณ
คำถาม : ข้อด้อยของคุณคืออะไร
แนวทางการตอบ : หลายคนเลือกตอบคำถามนี้ด้วยการพยายามทำให้ข้อด้อยกลายเป็นข้อดีขึ้นมาเพราะไม่อยากพูดถึงข้อเสียของตัวเอง เช่น เป็นคนให้ความสำคัญกับงานมากจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น อาจจะดูเหมือนเป็นคำตอบที่ดีแต่ก็แฝงไปด้วยความหมายว่าคุณบริหารจัดการเวลาไม่ค่อยเป็น ในความเป็นจริงแล้วคุณสามารถพูดถึงข้อด้อยของตัวเองได้อย่างตรงไปตรงมาแต่ควรเป็นสิ่งที่คุณได้พยายามแก้ไขจนดีขึ้นแล้ว ยกตัวอย่างเช่น เคยเป็นคนบริหารจัดการเวลาไม่ค่อยเป็นทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้ชีวิตส่วนตัว ภายหลังจึงเลือกใช้วิธีจัดลำดับความสำคัญของงาน จัดทำ to do list หรือใช้ application มือถือช่วยจัดตารางการทำงานเป็นต้น
คำถาม : เป้าหมายระยะยาวของคุณคืออะไร
แนวทางการตอบ : บางครั้งอาจจะเป็นคำถามว่าคุณเห็นตัวเองเป็นอย่างไรใน 5 ปีต่อจากนี้ คุณสามารถตอบได้ตามความฝันของคุณ เช่นอยากนั่งตำแหน่งหัวหน้างานหรือผู้จัดการแผนก แต่ก็ควรพิจารณาเลือกเป้าหมายที่มีความเป็นไปได้ตามกรอบเวลานั้น และควรยกตัวอย่างประกอบด้วยว่าคุณวางแผนอย่างไรที่จะไปถึงเป้าหมาย คุณจะพัฒนาความสามารถอย่างไรให้เหมาะสมกับตำแหน่งนั้น ความท้าทายและอุปสรรคในการเดินไปถึงจุดหมายคืออะไรและคุณคิดว่าจะจัดการกับมันอย่างไร
จะเห็นได้ว่าการตอบคำถามในการสัมภาษณ์งานนั้นคุณไม่จำเป็นต้องคิดคำตอบให้สวยหรูดูดีเสมอไป การตอบตามความเป็นจริงนั้นดีที่สุด เพราะเป็นประสบการณ์ตรงในชีวิตที่ไม่ต้องอาศัยการท่องจำจนขาดความเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้การพูดถึงสิ่งใดก็ตามควรมีหลักฐานหรือตัวอย่างสนับสนุนคำพูดของคุณเสมอ การซ้อมตอบคำถามเหล่านี้หลายครั้งก่อนวันสัมภาษณ์จริงจะช่วยให้คุณสามารถเลือกคำตอบที่ดีที่สุดได้ค่ะ
คำถาม : คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง
แนวทางการตอบ : ทุกครั้งที่สมัครงาน เราจำเป็นที่จะต้องรู้และเข้าใจรายละเอียดที่สำคัญของบริษัทนั้นๆ เช่น ประวัติบริษัท ผลิตภัณฑ์ ภาพลักษณ์องค์กร กลุ่มลูกค้า หากมีสิ่งที่เรารู้สึกประทับใจเกี่ยวกับบริษัทนั้นๆ ก็สามารถแสดงความชื่นชมได้อย่างเหมาะสม เพื่อแสดงให้บริษัทที่เราไปสัมภาษณ์เห็นว่าคุณมีความพร้อม และต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทนั้นอย่างแท้จริง
สำหรับข้อแนะนำเพิ่มเติมในฐานะ Consultant ของบริษัทจัดหางาน Pasona คือเรื่องของการรักษามารยาทในการสมัครงาน ควรมีความสำรวม ให้เกียรติผู้สัมภาษณ์ สบตาอย่างจริงใจ ไม่หลบสายตา แต่ไม่จ้องตาจนเกินงาม เป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส กระตือรือร้น เป็นผู้พูด และผู้ฟังที่ดี มีความมั่นใจในตัวเอง แต่ก็ยังคงความนอบน้อม หรือสรุปง่ายๆก็คือ เราควรเป็นตัวของตัวเองในแบบที่ดีที่สุดค่ะ
นอกจากนี้ หลังจากที่คุณได้เตรียมตัวในการสัมภาษณ์งานมาอย่างดีแล้ว แต่ดันมาเจอคำถามที่ไม่คาดคิดว่าจะถูกผู้สัมภาษณ์ถาม ก็เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน งั้นลองมาเตรียมพร้อมสำหรับคำถามแปลกๆกันบ้าง เพื่อเตรียมความพร้อมให้เรารู้สึกมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
ขอยกตัวอย่างคำถามแปลกๆ จากเว็บไซต์ JobThai.com/REACH ดังต่อไปนี้ค่ะ
ทำไมฝาท่อระบายน้ำต้องเป็นรูปวงกลม ?
ทั้งคำถาม “ทำไมฝาท่อระบายน้ำต้องเป็นวงกลม” และคำถามว่า “คุณจะเคลื่อนย้ายภูเขาไฟฟูจิได้อย่างไร” ต่างก็เคยปรากฏในเนื้อหาของหนังสือที่มีชื่อว่า “How Would You Move Mount Fuji? Microsoft’s Cult of the Puzzle: How the World’s Smartest Company Selects the Most Creative Thinkers” ซึ่งแค่ชื่อหนังสือก็พอจะบอกได้ว่าองค์กรไอทีระดับโลกอย่าง Microsoft นั้นมีกระบวนการสัมภาษณ์งานที่โหดหินเพียงใด เพราะพวกเขามักจะสอดแทรกคำถามเชิงตรรกศาสตร์และคำถามเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาลงไปในรายการคำถามสำหรับคัดเลือกผู้สมัครงานด้วย
เมื่อเจอคำถามแบบนี้ คุณต้องอธิบายเหตุผลให้ได้ว่าทำไมถึงคุณถึงตอบแบบนั้น เช่น การตอบคำถาม ว่า “ทำไมฝาท่อระบายน้ำต้องเป็นรูปวงกลม” อาจจะอธิบายว่าฝาที่เป็นวงกลมจะทำให้กรอบของท่อนั้นแข็งแรงเพราะมีการกระจายน้ำหนักเท่ากันโดยรอบ ซึ่งต่างจากฝารูปร่างอื่น ๆ เช่น รูปสี่เหลี่ยม หรือฝาท่อแบบวงกลมไม่มีทางที่จะหล่นลงไปในท่อได้ ซึ่งฝาท่อรูปทรงสี่เหลี่ยมมีโอกาสจะตกลงไปได้หากถ้าฝาท่อสี่เหลี่ยมถูกพลิกด้านข้าง หรือคำตอบอะไรก็ได้ที่แสดงว่าคุณคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล เชื่อมโยงและสนับสนุนกับคำตอบของคุณ
ถ้าคุณเป็นก้อนอิฐในกำแพง คุณอยากจะเป็นก้อนอิฐก้อนไหน และทำไม?
คำถามที่ว่า “ถ้าคุณเป็นก้อนอิฐในกำแพง คุณอยากจะเป็นก้อนอิฐก้อนไหนและทำไม” หรือคำถามว่า “หากคุณเลือกเป็นสัตว์ได้หนึ่งชนิด คุณอยากเป็นอะไรและทำไม” คำถามเหล่านี้มีไว้เพื่อให้คุณได้แสดงบุคลิกภาพของคุณ คำตอบของคุณจะบ่งบอกนิสัยและคุณสมบัติบางอย่าง
เมื่อคุณเจอคำถามประเภทนี้คุณต้องคิดให้รวดเร็วและรอบคอบ จากนั้นจึงตอบคำถามโดยอาศัยสิ่งที่คุณมีอยู่หรือสิ่งที่คุณได้ทำการบ้านล่วงหน้ามาก่อน เช่น ถ้าคุณเตรียมตัวตอบคำถามประเภทข้อดี–ข้อเสียของตัวคุณ คุณสามารถนำการตอบแบบนั้นมาผสมผสานกับการตอบคำถามประเภทนี้ได้ ถ้าจะตอบคำถามว่า “อยากเป็นอิฐก้อนไหน” คุณอาจจะตอบว่า “ฉันอยากจะเป็นอิฐก้อนแรกที่อยู่ที่ฐานล่างสุดของกำแพง เพราะฉันเป็นคนที่หนักแน่น คนอื่นไว้วางใจได้ ถ้าใครได้ทำงานด้วยก็มั่นใจได้เลยว่าฉันจะไม่ทำให้ผิดหวัง ฉันจะคอยเป็นฐานที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุนคนอื่น ๆ ในทีมเอง”
อย่าลืมว่าท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าคำถามจะแปลกแค่ไหน คิด พิจารณาทุกอย่างให้ดีก่อนตอบคำถามนั้นออกไป เพราะทุกคำถามก็เป็นไปเพื่อการทดสอบความเหมาะสมของคุณกับตำแหน่งงานนั้น ๆ อยู่ดี
นอกจากนี้ทาง Pasona ยังมีคำถามสัมภาษณ์งานโดยรวบรวมจาก Consultant ชาวญี่ปุ่นมาฝากให้กับผู้สมัครงานที่สนใจสมัครงานกับบริษัทญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ หากคุณกำลังสนใจ หรือกำลังได้สัมภาษณ์กับบริษัทญี่ปุ่น เราขอแนะนำให้ลองฝึกตอบคำถามดังต่อไปนี้ค่ะ
- แนะนำตัวเองอะไรก็ได้ ภายในหนึ่ง หรือ สองนาที
- ทำไมถึงอยากร่วมงานกับเรา
- คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง
- จงบอกข้อดี ข้อเสียของคุณ
เทคนิค คือ ควรตอบข้อเสียที่มาพร้อมกับแผนการว่าจะพัฒนา หรือแก้ไขข้อเสียได้อย่างไร
- กิจกรรมที่เข้าร่วมในขณะเรียนมหาลัย หรือประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา เช่น จิตอาสา กีฬา หรือทำPart Time เพื่อดูประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร ว่าผู้สมัครมีความเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นๆหรือไม่
- เนื้อหาข่าวที่ผู้สมัครสนใจ เช่น ข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สำหรับตำแหน่งงานทั่วไป ว่าเป็นคนสนใจเหตุการณ์ รอบรู้หรือไม่ ผู้สมัครควรมีความรู้เกี่ยวกับข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สังคม อย่างใดอย่างหนึ่ง
- ระยะเวลาในการทำงาน เทคนิคการตอบคือ ควรมีความตั้งใจที่จะทำงานกับทางบริษัทมากกว่าห้าปี
- ในการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้าย บริษัทอาจจะถามว่า บริษัทของเราเป็นที่ที่คุณให้ความสำคัญ หรืออยากร่วมงานเป็นอันดับแรกหรือไม่ ผู้สมัครไม่ควรตอบไปว่าสัมภาษณ์หลายที่ ควรมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมงานกับทางบริษัทจริงๆ
- มีคำถามอะไรอยากจะถามเรารึเปล่า เป็นคำถามเพื่อวัดว่าสนใจบริษัทเรา หรืองานนั้นจริงๆหรือไม่
จะเห็นได้ว่าคำถามที่สัมภาษณ์ในไทย กับญี่ปุ่นจะค่อนข้างคล้ายกัน มีจุดแตกต่างเพียงกันเล็กน้อย คือ เรื่องของความสนใจเกี่ยวกับข่าวสารบ้านเมือง เพื่อดูว่าเป็นคนสนใจสิ่งรอบตัว หรือพอมีความรู้รอบตัวบ้างหรือไม่ และเรื่องของระยะเวลาการทำงานที่ทางญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับความจงรักภักดีในองค์กร โดยคาดหวังให้พนักงานทำงานกับบริษัทไปนานๆ
แต่จะให้ฝึกตอบคำถามทั่วไปแบบนี้ ก็อาจจะธรรมดาไปหน่อย ทาง Pasona จึงได้นำแนวคำถามแปลกๆในการสัมภาษณ์งานจากทางญี่ปุ่นบางส่วนมาให้ผู้สมัครงานฝึกตอบคำถามกันด้วยค่ะ
- ให้พรีเซ็นท์ หรือหาวิธีเพื่อเปลี่ยนทัศนคติของผู้สัมภาษณ์ เช่น เป็นคนไม่ชอบเขียนจดหมาย ทำอย่างไรให้ชอบเขียนจดหมาย หรือ ไม่ชอบดูหนัง จะนำเสนอยังไงให้ชอบดูหนัง
- มีรูปมาให้ เป็นวัสดุหนึ่งชิ้น แล้วถามว่า สิ่งนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง ให้บอกมา 10 ข้อ (คำถามในการสมัครบริษัทให้คำปรึกษา เป็นแบบ brainstorm เพื่อดูทักษะความคิดสร้างสรรค์ และการคิดเชิงตรรกะ
- ให้ผู้สมัครงานเป็นผู้สัมภาษณ์คนของบริษัท หลังจากเป็นผู้ถูกสัมภาษณ์ ให้สลับบทบาทกัน เพื่อดูว่าผู้สมัครงานเตรียมความพร้อมมามากแค่ไหน
และอีกหนึ่งคำถามที่น่าสนใจในด้านกระบวนการคิดคำนวณ จากบริษัท Consulting ที่จะขอยกตัวอย่างมาจากเว็บไซต์ JobThai.com/REACH ค่ะ
- ในประเทศญี่ปุ่นมีร้านทำผมสตรีกี่ร้าน
คนสัมภาษณ์ต้องการเปิดโอกาสให้คุณได้แสดงทักษะและกระบวนการคิดของคุณ เมื่อคุณถูกถามแบบนี้ คุณต้องเรียบเรียงความคิดของคุณออกมาเป็นคำพูดให้ดี คุณอาจจะเริ่มด้วยการวิเคราะห์ เช่น เราต้องรู้จำนวนประชากรของประเทศญี่ปุ่นก่อน และเราต้องค้นหาว่าคนญี่ปุ่นทำผมคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของคนทั้งประเทศและพวกเขาทำผมบ่อยแค่ไหน
ซึ่งบ่อยครั้งที่ผู้สมัครมักจะตอบคำถามที่เหนือความคาดหมายไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้เตรียมความพร้อมสำหรับคำถามเหล่านี้มา เราจึงควรฝึกตอบคำถามที่มีความแปลก และไม่คาดคิดว่าจะถูกถามไว้ด้วย โดยเริ่มฝึกจากคำถามที่ทาง Pasona ได้ยกตัวอย่างมา และจากเว็บไซต์ต่างๆเพิ่มเติมได้ค่ะ เพื่อที่ว่าเราจะได้มีสกิลในการตอบคำถามเพิ่มขึ้น และไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป
เมื่อเรารู้แนวทางการสัมภาษณ์งานแล้ว ก็อย่าชะล่าใจเชียวค่ะ รีบมาฝึกตอบคำถามเพื่อเตรียมความพร้อมในการสัมภาษณ์งานกันดีกว่า เพราะถ้าเราหมั่นฝึกฝนตัวเองจนมีความพร้อมแล้ว รบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง เช่นเดียวกันกับการสมัครงานค่ะ ถ้าเราหมั่นฝึกตอบคำถามควบคู่ไปกับการฝึกฝนทักษะต่างๆอย่างสม่ำเสมอ สมัครงานกี่ครั้งก็ผ่านทุกครั้งแน่นอนค่ะ ทาง Pasona ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่กำลังจะได้สัมภาษณ์งานได้งานที่ตรงกับใจต้องการกันนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
“ความโปร่งใสของเงินเดือน”ปัจจัยที่มีผลต่อแรงบันดาลใจในการทำงาน
“การจ่ายค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกับงานที่ให้”—เงื่อนไขง่ายๆที่รู้กันอยู่แล้วในโลกของการทำงาน
“คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”อีกหนึ่งคำถามที่มักถูกถามในการสัมภาษณ์งาน
ในการเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน สิ่งสำคัญก็คือการเตรียมคำตอบสำหรับคำถามที่มักถูกถามในห้องสัมภาษณ์ คำถามหนึ่งที่เห็นได้บ่อยครั้งก็คือ “คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”
ตอบอย่างไรให้ดูดี กับคำถามสัมภาษณ์”เงินเดือนที่คุณคาดหวัง”
เพื่อหางานที่มีลักษณะและเงินเดือนที่เหมาะสมกับความต้องการ การต่อรองเงินเดือนมักไม่ได้เกิดขึ้นในขั้นตอนที่บริษัทตัดสินใจจ้างงาน มักเกิดขึ้นในหลายๆขั้นตอนก่อนหน้านั้น
สอบถามเพิ่มเติม
เกี่ยวกับบริการของเรา