“ความโปร่งใสของเงินเดือน”ปัจจัยที่มีผลต่อแรงบันดาลใจในการทำงาน
admin-kanato HR Consulting, บทความทั้งหมด ทำงานในญี่ปุ่น, ทำงานในประเทศญี่ปุ่น, บริษัทญี่ปุ่น, วัฒนธรรมการทำงานกับญี่ปุ่น, หางาน, หางานบริษัทญี่ปุ่น, หางานใหม่

[“ความโปร่งใสของเงินเดือน”ปัจจัยที่มีผลต่อแรงบันดาลใจในการทำงานของพนักงาน]
“การจ่ายค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกับงานที่ให้”—เงื่อนไขง่ายๆที่รู้กันอยู่แล้วในโลกของการทำงาน แต่ในรายงานของปี 2022 พบว่าปัจจัยเรื่องต่างๆก็มีผลต่อค่าตอบแทนเช่นกัน เช่น เพศ ที่เกิดความแตกต่างระหว่างเงินเดือนของเพศหญิงและเพศชาย โดยที่ผู้ชายจะได้รับมากกว่าเพศหญิงในตำแหน่งเดียวกัน และความรับผิดชอบงานเท่ากัน นอกจากนั้นความแตกต่างจะยิ่งมีมากขึ้นจากสีผิว (สัญชาติ) การเรียกร้องให้เปิดเผยตัวเลขเงินเดือนในสหรัฐอเมริกาจึงเกิดขึ้น เพราะเชื่อว่าจะทำให้ช่องว่างของค่าตอบแทนนั้นมีน้อยลง
จากการทำวิจัยของเว็บไซต์ Indeed ด้วยการเก็บข้อมูลจากพนักงานบริษัทกว่า 1,500 คนที่อาศัยและทำงานอยู่ในสหรัฐอเมริกา พบว่า ความโปร่งใสในการจ่ายค่าตอบแทนจะนำมาซึ่งการจัดระเบียบผลประโยชน์ของทั้งพนักงานและบริษัทได้เป็นอย่างดี
ความโปร่งใสในการจ่ายค่าตอบแทนหน้าตาเป็นยังไง?
ความโปร่งใสในการจ่ายค่าตอบแทนเป็น แนวทางการปฏิบัติที่สามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่การประกาศช่วงเงินเดือนในรายชื่องาน, การเปิดเผยเอกสารแบบสาธารณะที่มีข้อมูลเกี่ยวกับค่าตอบแทน ผลตอบแทน สวัสดิการของทุกๆตำแหน่งงานที่อยู่ในองค์กรรวมทั้งการเปิดให้มีการพูดคุยกันระหว่างพนักงานและฝ่ายสนับสนุนงานของบริษัท
แต่ในปัจจุบัน ความโปร่งใสของการจ่ายค่าตอบแทนนั้นมีความหลากหลายแตกต่างกันรัฐต่อรัฐ และในระบบราชการส่วนใหญ่ของประเทศยังคงขาดความโปร่งใสอยู่มาก ในความเป็นจริงแล้ว การเก็บความลับเกี่ยวกับเงินเดือนค่าตอบแทนโดยที่ไม่บอกเพื่อนพนักงานคนอื่นๆนั้นฝังรากลึกอยู่ในจิตวิทยาการใช้ชีวิตของประชาชนส่วนใหญ่ โดยที่ 63% ของคนทำงานในกลุ่มวิจัยไม่เคยพูดเกี่ยวกับเงินเดือนที่ได้รับกับเพื่อนร่วมงานเลย
ทำไมคนถึงเลือกที่จะไม่พูดเกี่ยวกับเงินเดือนและผลตอบแทน
ทั้งๆที่ขัดกับความเชื่อของคน นโยบายที่เกี่ยวกับการห้ามพูดถึงเงินเดือนนั้นถูกทำให้ผิดกฎหมายตามกฎหมายแรงงานของอเมริกา คิดไว้เสมอว่า ในบางบริษัทจะมีการห้ามพูดถึงเงินเดือนในช่วงเวลาทำงาน หรือระหว่างที่ใช้งานเครื่องมือต่างๆของบริษัท ดังนั้นหากจะพูดถึงเงินเดือนจะต้องดูถึงนโยบายของบริษัทด้วยเพื่อปกป้องตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อเป็นการป้องกันการสับสนเกี่ยวกับนโยบายในการพูดถึงเงินเดือนและค่าตอบแทนของตัวเองกับคนรอบข้าง คนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะไม่พูดเลยในเหตุผลที่แตกต่างกันเช่น
38% บอกว่าการพูดเรื่องเงินเดือนกับเพื่อนร่วมงานเป็นเรื่องต้องห้าม
37% บอกว่า พวกเขาไม่อยากจะสร้างดราม่าหรือความขุ่นเคืองกันระหว่างเพื่อนพนักงาน
27% บอกว่า พวกเขาไม่ต้องการมีปัญหากับผู้บังคับบัญชาในบริษัท
23% บอกว่า พวกเขาไม่ต้องการถูกตัดสินจากคนที่รู้เรื่องเงินเดือนของพวกเขา
จนกว่านโยบายความโปร่งใสของเงินเดือนจะถูกใช้งานในระดับประเทศ การพูดคุยอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับเงินเดือนเป็นอีกทางออกหนึ่งที่ทำให้เกิดความเท่าเทียมกันในองค์กรได้ดี
สำหรับผู้หางาน การได้รับเงินเดือนที่ยุติธรรมเป็นสิ่งที่ควรได้รับและพิจารณาเป็นอย่างแรกเมื่อได้รับงานใหม่มา
จากการสำรวจพนักงานในสหรัฐอเมริกากว่า 1,500 คน รายงานว่า 80% การได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมและยุติธรรมเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในการรับงานใหม่ แนวทางการปฏิบัติด้านความโปร่งของค่าตอบแทนเช่น ช่วงเงินเดือนที่ได้รับ ปัจจัยในการพิจารณาเงินเดือน การให้ข้อมูลที่จำเป็นกับพนักงานที่ใช้เพื่อการตัดสินใจรับงาน และเป็นข้อมูลที่ทำให้พนักงานเชื่อว่าเป็นยอดเงินที่ยุติธรรมพอสำหรับความคาดหวังได้ ความโปร่งใสในการจ่ายค่าตอบแทนนั้นจะช่วยให้บริษัทได้รับผู้สมัครที่เหมาะสมมากขึ้น ในการใช้ทรัพยากรด้านต่างๆที่ลดลง รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการรักษาพนักงานที่ดีๆไว้ได้มากขึ้น
จากการวิจัย ความโปร่งในการจ่ายค่าตอบแทนจะทำให้เกิดผลลัพธ์ต่างๆดังนี้
จำนวนผู้สมัครตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับตำแหน่งมีมากขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้น :
75% ของผู้ทำวิจัยบอกว่า มีแนวโน้มจะสมัครงานมากขึ้นเมื่อรับรู้ว่าเงินเดือนของตำแหน่งนี้อยู่ที่เท่าไหร่ และ 56% บอกว่า จะมีความกล้าที่จะสมัครงานมากยิ่งขึ้น ถ้าบริษัทนั้นระบุจำนวนเงินเดือนที่ชัดเจนถึงแม้ว่าจะเป็นบริษัทที่พวกเขาไม่รู้จัก
พนักงานอยู่กับบริษัทนานขึ้น :
เมื่อพนักงานเชื่อว่า ตัวเองได้รับเงินเดือนที่เหมาะสม พวกเขาจะได้รู้สึกไม่อยากลาออกและรู้สึกอยากทำงานให้องค์กรมากขึ้น โดย 83% บอกว่าพวกเขารู้สึกภักดีกับงานที่พวกเขารู้สึกว่าได้รับการดูแลและจ่ายเงินพวกเค้าอย่างยุติธรรม
พนักงานมีความสุขมากขึ้น:
พนักงานที่เชื่อว่าตัวเองได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมและยุติธรรมจะมีความสุขในการทำงานมากกว่า และความสุขเหล่านั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นประสิทธิภาพในการทำงาน 84% จะรู้สึกผูกพันกับงานมากขึ้น และ 83% บอกว่าพวกเขารู้สึกมีความมั่นใจในการทำงานมากขึ้นด้วย
แรงบันดาลใจในการทำงานลดลงเมื่อพนักงานรู้สึกว่าไม่ได้รับค่าตอบแทนที่ยุติธรรม
เมื่อพนักงานรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้รับการจ่ายเงินที่เหมาะสม พวกเขาจะรู้สึกไม่สบายใจ โดย 51% บอกว่า พวกเขาเคยมีประสบการณ์การได้รับเงินเดือนน้อยกว่าเพื่อนร่วมงานในระดับงานและตำแหน่งเดียวกัน พวกเขาเลือกที่จะตัดสินใจในวิธีทางที่ต่างกัน อาทิ
- เริ่มหางานใหม่ : 69% ของพนักงานบอกว่าจะหางานใหม่เมื่อรู้ว่าได้รับเงินเดือนน้อยกว่าเพื่อนร่วมงาน โดย 29% บอกว่าจะหางานใหม่ทันที 24% หางานใหม่ภายใน 3-6 เดือน และ 16% หางานใหม่ภายในปีนั้นๆ
- หมดแรงบันดาลใจที่จะทำงาน : 55% ของพนักงานรู้สึกเสียความมั่นใจและหมดแรงบันดาลใจที่จะทำงานต่อไปเมื่อรู้ว่าตัวเองได้รับค่าตอบแทนน้อยกว่าพนักงานคนอื่นๆในระดับเดียวกัน
- เสียความน่าเชื่อถือในบริษัท : 50% ของพนักงานจะรู้สึกสูญเสียความมั่นใจกับบริษัท และ 41% บอกว่าพวกเขาจะรู้สึกไม่เชื่อใจหัวหน้าของพวกเขาอีกต่อไป
เมื่อพนักงานรู้สึกไม่เห็นทางและรู้สึกมืดมนเกี่ยวกับค่าจ้างที่พวกเขาได้รับ พวกเขามักจะสร้างสมมติฐานที่ว่า พวกเขาน่าจะได้รับเงินเดือนน้อยกว่าเพื่อนร่วมงาน อย่างไรก็ตาม แนวทางการปฏิบัติเพื่อความโปร่งใสของค่าตอบแทนนั้นจะเป็นทางที่สำคัญในการช่วยเหลือพนักงานได้
หากในโลกของการทำงานมีการจัดลำดับความท้าทายที่สำคัญที่สุด 50% บอกว่า การให้เงินเดือนที่ยุติธรรมและสมดุลเป็นอุปสรรคที่สำคัญในลำดับต้นๆ และถึงแม้ว่า 51% บอกว่าเป็นความรับผิดชอบของพวกเขาที่จะต้องทำให้แน่ใจว่าพวกเขาได้รับเงินเดือนที่ยุติธรรม และมี 25% ที่บอกว่าพวกเขาไม่เคยพยายามที่จะต่อรองเงินเดือน 28% บอกว่ามีโอกาสน้อยมากที่พวกเขาจะต่อรองเรื่องเงินเดือน
จะทำอย่างไรให้เกิดความโปร่งใสในการจ่ายค่าตอบแทนมากยิ่งขึ้น
พนักงานและบริษัทสามารถพัฒนาความโปร่งใสเรื่องเงินเดือนในองค์กรไปพร้อมๆกันได้
>> ในฐานะเจ้าของบริษัท <<
ความโปร่งใสในเรื่องของเงินเดือนนั้นมีหลากหลายระดับที่เจ้าของกิจการสามารถปรับได้ ความโปร่งใสในระดับที่รับได้ เป็นได้ดังนี้
- มีการระบุช่วงเงินเดือนของตำแหน่งงานทุกๆงาน ระบุช่วงความแตกต่างของเงินเดือนว่าขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง จะช่วยเพิ่มความโปร่งใสได้มากขึ้น
- เปิดให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ว่าระบบการคิดคำนวณนั้นพิจารณาจากอะไรบ้าง
- พิจารณาถึงความโปร่งใสของเงินเดือนในองค์กร ความโปร่งใสในการจ่ายเงินเดือนจะเป็นการมอบโอกาสให้พนักงานสามารถต่อรองค่าตอบแทนกับบริษัท รวมทั้งสนับสนุนให้องค์กรสามารถประเมินได้ว่ามีความแตกต่างในองค์กรมากน้อยเพียงใด
>> ในฐานะพนักงาน <<
- เก็บข้อมูลด้วยตัวเอง : ลองหาข้อมูลว่าในตำแหน่งงานของตัวเองนั้นมีระดับค่าตอบแทนอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่บ้าง โดยคำนึงถึง สถานที่ทำงาน หน้าที่ และ ปีประสบการณ์การทำงาน
- พูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน : ด้วยระบบออนไลน์ที่มี สามารถทำให้คุณประเมินได้เบื้องต้นว่าคุณควรได้รับค่าตอบแทนที่เท่าไหร่ แต่การพูดคุยกับเพื่อนพนักงานจะช่วยให้คุณได้ข้อมูลที่ชัดเจนที่สุด ในปัจจัยและเงื่อนไขที่ใกล้เคียงกัน แต่อย่างไรก็ตาม ต้องคิดไว้เสมอว่า ไม่ใช่เพื่อนร่วมงานทุกคนจะรู้สึกสะดวกใจที่จะพูดเกี่ยวกับเงินเดือน ดังนั้นการเปิดบทสนทนาเกี่ยวกับเงินเดือนควรทำด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน
- ถามบริษัท : หากคุณกำลังสัมภาษณ์กับบริษัทอยู่แต่ในรายละเอียดไม่มีบอกถึงช่วงเงินเดือนที่ได้รับ คุณควรถามในระหว่างการสัมภาษณ์ ขั้นตอนนี้จะช่วยประหยัดเวลาทั้งตัวคุณและบริษัทหากเงินเดือนไม่เป็นไปตามที่หวังไว้
ส่วนท่านใดที่กำลังหางานที่สามารถแสดงศักยภาพของตัวเองให้ได้มากที่สุดในบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย ทาง PASONA ก็ยินดีเป็นอีกกำลังสำคัญในการสนับสนุนช่วยให้ท่านหางานที่ใช่ได้โดยเร็วนะครับ
………………………………………………………
สามารถติดตามข่าวสาร ตำแหน่งงานจากบริษัทญี่ปุ่นทั่วประเทศ และงานอบรมออนไลน์ได้ในเฟสบุ๊ค PASONA ที่นี่ได้เลย
FREE Registration : สามารถลงทะเบียนข้อมูลเบื้องต้นเพื่อหางานและฝากใบสมัครโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่
>>> https://pasona.co.th/registration-form/ <<<
………………………………………………………
หางานที่ใช่ ได้งานที่ชอบ ต่อยอดความฝัน ไปให้ถึงเป้าหมาย กับ PASONA
☎️ Contact: Career Consultant
Phone: 02-108-1250
Email: info@pasona.co.th
………………………………………………………
#หางาน #สมัครงาน #หางานกทม. #หางานทำ #หางานบริษัทญี่ปุ่น #ฝากประวัติ #ค้นหางาน #PASONA #สัมภาษณ์งาน
บทความที่เกี่ยวข้อง

“ความโปร่งใสของเงินเดือน”ปัจจัยที่มีผลต่อแรงบันดาลใจในการทำงาน
“การจ่ายค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกับงานที่ให้”—เงื่อนไขง่ายๆที่รู้กันอยู่แล้วในโลกของการทำงาน

“คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”อีกหนึ่งคำถามที่มักถูกถามในการสัมภาษณ์งาน
ในการเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน สิ่งสำคัญก็คือการเตรียมคำตอบสำหรับคำถามที่มักถูกถามในห้องสัมภาษณ์ คำถามหนึ่งที่เห็นได้บ่อยครั้งก็คือ “คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”

ตอบอย่างไรให้ดูดี กับคำถามสัมภาษณ์”เงินเดือนที่คุณคาดหวัง”
เพื่อหางานที่มีลักษณะและเงินเดือนที่เหมาะสมกับความต้องการ การต่อรองเงินเดือนมักไม่ได้เกิดขึ้นในขั้นตอนที่บริษัทตัดสินใจจ้างงาน มักเกิดขึ้นในหลายๆขั้นตอนก่อนหน้านั้น
สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของเรา
Thailand Head Quarter
26th Floor, Sathorn Square
Office Tower,
98 North Sathorn Road, Silom,
Bangrak, Bangkok 10500, Thailand
TEL: +662-108-1250
E-mail: info@pasona.co.th
เตรียมตัวสัมภาษณ์อย่างไร ให้ได้งาน
การสมัครงานทุกวันนี้ มีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ด้วยความทันสมัย และเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้เราสามารถสมัครงานผ่านเว็บไซต์ได้ หรือส่งประวัติผ่านอีเมลล์ได้ แต่ขั้นตอนสำคัญที่สุดในการที่เราจะได้ร่วมงานกับบริษัทที่เราใฝ่ฝัน ก็คือ การสัมภาษณ์งาน ซึ่งเราจะได้มีโอกาสเข้ามาดูบรรยากาศการทำงาน สถานที่ทำงาน รวมถึงได้พบกับบุคคลากรของบริษัทนั้นๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่เราจะได้แสดงตัวตนของเรา และสร้างความประทับใจให้กับบริษัทได้โดยตรง
เพราะฉะนั้น การเตรียมความพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งาน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก นอกจากเรื่องบุคลิกภาพ การแต่งกายที่เราได้พูดถึงในบทความก่อนหน้านี้แล้ว (สามารถอ่านได้ที่บทความนี้ : https://pasona.co.th/b/1144)
การเตรียมพร้อมสำหรับคำถาม รวมถึงข้อมูลบริษัทก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน หรืออาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะเป็นวัดทัศนคติ และความเหมาะสมสำหรับตำแหน่งงานนั้นๆอย่างแท้จริง แน่นอนว่าเราไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์จะถามกับเราได้ แต่เราสามารถเตรียมตัวสำหรับแนวคำถามต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับตัวเองได้ ถ้าอย่างนั้นเรามาเตรียมความพร้อมกันดีกว่าค่ะว่าคำถามที่มักจะเจอในการสัมภาษณ์งานมีอะไรบ้าง ซึ่งแนวคำถามต่างๆที่พบเจอได้บ่อยครั้งในการสัมภาษณ์ จะขอยกตัวอย่างจากเว็บไซต์หางานชื่อดัง JobsDB.com
คำถาม : เล่าเรื่องคุณให้เราฟังหน่อย
แนวทางการตอบ : คำถามนี้แม้จะเหมือนกับทางบริษัทอยากรู้จักคุณเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่ควรเล่าเรื่องส่วนตัว เช่น คุณเป็นคนอย่างไร ชอบอะไรหรือมีงานอดิเรกอะไร ควรเน้นเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของคุณ เรียนจบอะไรมา มีประสบการณ์การทำงานอะไรมาบ้าง และเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเตรียมตัวเป็นผู้สมัครที่ดีที่สุดของงานนี้ โดยในแต่ละเรื่องที่คุณเล่าควรมีเหตุการณ์หรือมีการยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมประกอบด้วย
คำถาม : ทำไมเราควรจ้างคุณ
แนวทางการตอบ : คุณสามารถตอบได้ว่าคุณเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้โดยให้เหตุผลที่เหมาะสมเพิ่มเติม ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อจะตอบคำถามนี้ให้ได้ดีคือ รายละเอียดของตำแหน่งงานและบริษัทที่คุณสมัคร และสิ่งที่คุณจะสามารถให้กับองค์กรได้ ความรู้ความสามารถใดที่มีแต่อาจจะยังไม่เกี่ยวกับตำแหน่งนี้โดยตรงก็สามารถยกขึ้นมาพูดได้หากคุณเล็งเห็นว่ามันจะมีประโยชน์กับองค์กรได้ในอนาคต
คำถาม : ทำไมคุณจึงสนใจงานนี้/ ทำไมคุณจึงลาออกจากที่ทำงานเก่า
แนวทางการตอบ : สำหรับสองคำถามนี้ให้ตอบโดยเน้นไปที่ตัวงาน ไม่ใช่เงินเดือน สวัสดิการที่ดีกว่า เช่น สนใจงานนี้เพราะมีความท้าทายในตัวงานที่คุณคิดว่าคุณสามารถทำได้จากคุณสมบัติที่คุณมี โดยยกเหตุผลและตัวอย่างด้วย เช่นเดียวกับคำถามเรื่องการลาออกจากที่เก่าก็สามารถตอบได้ในทำนองเดียวกัน โดยควรหลีกเลี่ยงการพูดถึงปัญหาความสัมพันธ์กับเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานหรืออะไรก็ตามที่เป็นการพูดในแง่ไม่ดีถึงบริษัทเก่าของคุณ
คำถาม : ข้อด้อยของคุณคืออะไร
แนวทางการตอบ : หลายคนเลือกตอบคำถามนี้ด้วยการพยายามทำให้ข้อด้อยกลายเป็นข้อดีขึ้นมาเพราะไม่อยากพูดถึงข้อเสียของตัวเอง เช่น เป็นคนให้ความสำคัญกับงานมากจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น อาจจะดูเหมือนเป็นคำตอบที่ดีแต่ก็แฝงไปด้วยความหมายว่าคุณบริหารจัดการเวลาไม่ค่อยเป็น ในความเป็นจริงแล้วคุณสามารถพูดถึงข้อด้อยของตัวเองได้อย่างตรงไปตรงมาแต่ควรเป็นสิ่งที่คุณได้พยายามแก้ไขจนดีขึ้นแล้ว ยกตัวอย่างเช่น เคยเป็นคนบริหารจัดการเวลาไม่ค่อยเป็นทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้ชีวิตส่วนตัว ภายหลังจึงเลือกใช้วิธีจัดลำดับความสำคัญของงาน จัดทำ to do list หรือใช้ application มือถือช่วยจัดตารางการทำงานเป็นต้น
คำถาม : เป้าหมายระยะยาวของคุณคืออะไร
แนวทางการตอบ : บางครั้งอาจจะเป็นคำถามว่าคุณเห็นตัวเองเป็นอย่างไรใน 5 ปีต่อจากนี้ คุณสามารถตอบได้ตามความฝันของคุณ เช่นอยากนั่งตำแหน่งหัวหน้างานหรือผู้จัดการแผนก แต่ก็ควรพิจารณาเลือกเป้าหมายที่มีความเป็นไปได้ตามกรอบเวลานั้น และควรยกตัวอย่างประกอบด้วยว่าคุณวางแผนอย่างไรที่จะไปถึงเป้าหมาย คุณจะพัฒนาความสามารถอย่างไรให้เหมาะสมกับตำแหน่งนั้น ความท้าทายและอุปสรรคในการเดินไปถึงจุดหมายคืออะไรและคุณคิดว่าจะจัดการกับมันอย่างไร
จะเห็นได้ว่าการตอบคำถามในการสัมภาษณ์งานนั้นคุณไม่จำเป็นต้องคิดคำตอบให้สวยหรูดูดีเสมอไป การตอบตามความเป็นจริงนั้นดีที่สุด เพราะเป็นประสบการณ์ตรงในชีวิตที่ไม่ต้องอาศัยการท่องจำจนขาดความเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้การพูดถึงสิ่งใดก็ตามควรมีหลักฐานหรือตัวอย่างสนับสนุนคำพูดของคุณเสมอ การซ้อมตอบคำถามเหล่านี้หลายครั้งก่อนวันสัมภาษณ์จริงจะช่วยให้คุณสามารถเลือกคำตอบที่ดีที่สุดได้ค่ะ
คำถาม : คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง
แนวทางการตอบ : ทุกครั้งที่สมัครงาน เราจำเป็นที่จะต้องรู้และเข้าใจรายละเอียดที่สำคัญของบริษัทนั้นๆ เช่น ประวัติบริษัท ผลิตภัณฑ์ ภาพลักษณ์องค์กร กลุ่มลูกค้า หากมีสิ่งที่เรารู้สึกประทับใจเกี่ยวกับบริษัทนั้นๆ ก็สามารถแสดงความชื่นชมได้อย่างเหมาะสม เพื่อแสดงให้บริษัทที่เราไปสัมภาษณ์เห็นว่าคุณมีความพร้อม และต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทนั้นอย่างแท้จริง
สำหรับข้อแนะนำเพิ่มเติมในฐานะ Consultant ของบริษัทจัดหางาน Pasona คือเรื่องของการรักษามารยาทในการสมัครงาน ควรมีความสำรวม ให้เกียรติผู้สัมภาษณ์ สบตาอย่างจริงใจ ไม่หลบสายตา แต่ไม่จ้องตาจนเกินงาม เป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส กระตือรือร้น เป็นผู้พูด และผู้ฟังที่ดี มีความมั่นใจในตัวเอง แต่ก็ยังคงความนอบน้อม หรือสรุปง่ายๆก็คือ เราควรเป็นตัวของตัวเองในแบบที่ดีที่สุดค่ะ
นอกจากนี้ หลังจากที่คุณได้เตรียมตัวในการสัมภาษณ์งานมาอย่างดีแล้ว แต่ดันมาเจอคำถามที่ไม่คาดคิดว่าจะถูกผู้สัมภาษณ์ถาม ก็เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน งั้นลองมาเตรียมพร้อมสำหรับคำถามแปลกๆกันบ้าง เพื่อเตรียมความพร้อมให้เรารู้สึกมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
ขอยกตัวอย่างคำถามแปลกๆ จากเว็บไซต์ JobThai.com/REACH ดังต่อไปนี้ค่ะ
ทำไมฝาท่อระบายน้ำต้องเป็นรูปวงกลม ?
ทั้งคำถาม “ทำไมฝาท่อระบายน้ำต้องเป็นวงกลม” และคำถามว่า “คุณจะเคลื่อนย้ายภูเขาไฟฟูจิได้อย่างไร” ต่างก็เคยปรากฏในเนื้อหาของหนังสือที่มีชื่อว่า “How Would You Move Mount Fuji? Microsoft’s Cult of the Puzzle: How the World’s Smartest Company Selects the Most Creative Thinkers” ซึ่งแค่ชื่อหนังสือก็พอจะบอกได้ว่าองค์กรไอทีระดับโลกอย่าง Microsoft นั้นมีกระบวนการสัมภาษณ์งานที่โหดหินเพียงใด เพราะพวกเขามักจะสอดแทรกคำถามเชิงตรรกศาสตร์และคำถามเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาลงไปในรายการคำถามสำหรับคัดเลือกผู้สมัครงานด้วย
เมื่อเจอคำถามแบบนี้ คุณต้องอธิบายเหตุผลให้ได้ว่าทำไมถึงคุณถึงตอบแบบนั้น เช่น การตอบคำถาม ว่า “ทำไมฝาท่อระบายน้ำต้องเป็นรูปวงกลม” อาจจะอธิบายว่าฝาที่เป็นวงกลมจะทำให้กรอบของท่อนั้นแข็งแรงเพราะมีการกระจายน้ำหนักเท่ากันโดยรอบ ซึ่งต่างจากฝารูปร่างอื่น ๆ เช่น รูปสี่เหลี่ยม หรือฝาท่อแบบวงกลมไม่มีทางที่จะหล่นลงไปในท่อได้ ซึ่งฝาท่อรูปทรงสี่เหลี่ยมมีโอกาสจะตกลงไปได้หากถ้าฝาท่อสี่เหลี่ยมถูกพลิกด้านข้าง หรือคำตอบอะไรก็ได้ที่แสดงว่าคุณคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล เชื่อมโยงและสนับสนุนกับคำตอบของคุณ
ถ้าคุณเป็นก้อนอิฐในกำแพง คุณอยากจะเป็นก้อนอิฐก้อนไหน และทำไม?
คำถามที่ว่า “ถ้าคุณเป็นก้อนอิฐในกำแพง คุณอยากจะเป็นก้อนอิฐก้อนไหนและทำไม” หรือคำถามว่า “หากคุณเลือกเป็นสัตว์ได้หนึ่งชนิด คุณอยากเป็นอะไรและทำไม” คำถามเหล่านี้มีไว้เพื่อให้คุณได้แสดงบุคลิกภาพของคุณ คำตอบของคุณจะบ่งบอกนิสัยและคุณสมบัติบางอย่าง
เมื่อคุณเจอคำถามประเภทนี้คุณต้องคิดให้รวดเร็วและรอบคอบ จากนั้นจึงตอบคำถามโดยอาศัยสิ่งที่คุณมีอยู่หรือสิ่งที่คุณได้ทำการบ้านล่วงหน้ามาก่อน เช่น ถ้าคุณเตรียมตัวตอบคำถามประเภทข้อดี–ข้อเสียของตัวคุณ คุณสามารถนำการตอบแบบนั้นมาผสมผสานกับการตอบคำถามประเภทนี้ได้ ถ้าจะตอบคำถามว่า “อยากเป็นอิฐก้อนไหน” คุณอาจจะตอบว่า “ฉันอยากจะเป็นอิฐก้อนแรกที่อยู่ที่ฐานล่างสุดของกำแพง เพราะฉันเป็นคนที่หนักแน่น คนอื่นไว้วางใจได้ ถ้าใครได้ทำงานด้วยก็มั่นใจได้เลยว่าฉันจะไม่ทำให้ผิดหวัง ฉันจะคอยเป็นฐานที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุนคนอื่น ๆ ในทีมเอง”
อย่าลืมว่าท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าคำถามจะแปลกแค่ไหน คิด พิจารณาทุกอย่างให้ดีก่อนตอบคำถามนั้นออกไป เพราะทุกคำถามก็เป็นไปเพื่อการทดสอบความเหมาะสมของคุณกับตำแหน่งงานนั้น ๆ อยู่ดี
นอกจากนี้ทาง Pasona ยังมีคำถามสัมภาษณ์งานโดยรวบรวมจาก Consultant ชาวญี่ปุ่นมาฝากให้กับผู้สมัครงานที่สนใจสมัครงานกับบริษัทญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ หากคุณกำลังสนใจ หรือกำลังได้สัมภาษณ์กับบริษัทญี่ปุ่น เราขอแนะนำให้ลองฝึกตอบคำถามดังต่อไปนี้ค่ะ
- แนะนำตัวเองอะไรก็ได้ ภายในหนึ่ง หรือ สองนาที
- ทำไมถึงอยากร่วมงานกับเรา
- คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง
- จงบอกข้อดี ข้อเสียของคุณ
เทคนิค คือ ควรตอบข้อเสียที่มาพร้อมกับแผนการว่าจะพัฒนา หรือแก้ไขข้อเสียได้อย่างไร
- กิจกรรมที่เข้าร่วมในขณะเรียนมหาลัย หรือประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา เช่น จิตอาสา กีฬา หรือทำPart Time เพื่อดูประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร ว่าผู้สมัครมีความเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นๆหรือไม่
- เนื้อหาข่าวที่ผู้สมัครสนใจ เช่น ข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สำหรับตำแหน่งงานทั่วไป ว่าเป็นคนสนใจเหตุการณ์ รอบรู้หรือไม่ ผู้สมัครควรมีความรู้เกี่ยวกับข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สังคม อย่างใดอย่างหนึ่ง
- ระยะเวลาในการทำงาน เทคนิคการตอบคือ ควรมีความตั้งใจที่จะทำงานกับทางบริษัทมากกว่าห้าปี
- ในการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้าย บริษัทอาจจะถามว่า บริษัทของเราเป็นที่ที่คุณให้ความสำคัญ หรืออยากร่วมงานเป็นอันดับแรกหรือไม่ ผู้สมัครไม่ควรตอบไปว่าสัมภาษณ์หลายที่ ควรมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมงานกับทางบริษัทจริงๆ
- มีคำถามอะไรอยากจะถามเรารึเปล่า เป็นคำถามเพื่อวัดว่าสนใจบริษัทเรา หรืองานนั้นจริงๆหรือไม่
จะเห็นได้ว่าคำถามที่สัมภาษณ์ในไทย กับญี่ปุ่นจะค่อนข้างคล้ายกัน มีจุดแตกต่างเพียงกันเล็กน้อย คือ เรื่องของความสนใจเกี่ยวกับข่าวสารบ้านเมือง เพื่อดูว่าเป็นคนสนใจสิ่งรอบตัว หรือพอมีความรู้รอบตัวบ้างหรือไม่ และเรื่องของระยะเวลาการทำงานที่ทางญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับความจงรักภักดีในองค์กร โดยคาดหวังให้พนักงานทำงานกับบริษัทไปนานๆ
แต่จะให้ฝึกตอบคำถามทั่วไปแบบนี้ ก็อาจจะธรรมดาไปหน่อย ทาง Pasona จึงได้นำแนวคำถามแปลกๆในการสัมภาษณ์งานจากทางญี่ปุ่นบางส่วนมาให้ผู้สมัครงานฝึกตอบคำถามกันด้วยค่ะ
- ให้พรีเซ็นท์ หรือหาวิธีเพื่อเปลี่ยนทัศนคติของผู้สัมภาษณ์ เช่น เป็นคนไม่ชอบเขียนจดหมาย ทำอย่างไรให้ชอบเขียนจดหมาย หรือ ไม่ชอบดูหนัง จะนำเสนอยังไงให้ชอบดูหนัง
- มีรูปมาให้ เป็นวัสดุหนึ่งชิ้น แล้วถามว่า สิ่งนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง ให้บอกมา 10 ข้อ (คำถามในการสมัครบริษัทให้คำปรึกษา เป็นแบบ brainstorm เพื่อดูทักษะความคิดสร้างสรรค์ และการคิดเชิงตรรกะ
- ให้ผู้สมัครงานเป็นผู้สัมภาษณ์คนของบริษัท หลังจากเป็นผู้ถูกสัมภาษณ์ ให้สลับบทบาทกัน เพื่อดูว่าผู้สมัครงานเตรียมความพร้อมมามากแค่ไหน
และอีกหนึ่งคำถามที่น่าสนใจในด้านกระบวนการคิดคำนวณ จากบริษัท Consulting ที่จะขอยกตัวอย่างมาจากเว็บไซต์ JobThai.com/REACH ค่ะ
- ในประเทศญี่ปุ่นมีร้านทำผมสตรีกี่ร้าน
คนสัมภาษณ์ต้องการเปิดโอกาสให้คุณได้แสดงทักษะและกระบวนการคิดของคุณ เมื่อคุณถูกถามแบบนี้ คุณต้องเรียบเรียงความคิดของคุณออกมาเป็นคำพูดให้ดี คุณอาจจะเริ่มด้วยการวิเคราะห์ เช่น เราต้องรู้จำนวนประชากรของประเทศญี่ปุ่นก่อน และเราต้องค้นหาว่าคนญี่ปุ่นทำผมคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของคนทั้งประเทศและพวกเขาทำผมบ่อยแค่ไหน
ซึ่งบ่อยครั้งที่ผู้สมัครมักจะตอบคำถามที่เหนือความคาดหมายไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้เตรียมความพร้อมสำหรับคำถามเหล่านี้มา เราจึงควรฝึกตอบคำถามที่มีความแปลก และไม่คาดคิดว่าจะถูกถามไว้ด้วย โดยเริ่มฝึกจากคำถามที่ทาง Pasona ได้ยกตัวอย่างมา และจากเว็บไซต์ต่างๆเพิ่มเติมได้ค่ะ เพื่อที่ว่าเราจะได้มีสกิลในการตอบคำถามเพิ่มขึ้น และไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป
เมื่อเรารู้แนวทางการสัมภาษณ์งานแล้ว ก็อย่าชะล่าใจเชียวค่ะ รีบมาฝึกตอบคำถามเพื่อเตรียมความพร้อมในการสัมภาษณ์งานกันดีกว่า เพราะถ้าเราหมั่นฝึกฝนตัวเองจนมีความพร้อมแล้ว รบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง เช่นเดียวกันกับการสมัครงานค่ะ ถ้าเราหมั่นฝึกตอบคำถามควบคู่ไปกับการฝึกฝนทักษะต่างๆอย่างสม่ำเสมอ สมัครงานกี่ครั้งก็ผ่านทุกครั้งแน่นอนค่ะ ทาง Pasona ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่กำลังจะได้สัมภาษณ์งานได้งานที่ตรงกับใจต้องการกันนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง

“ความโปร่งใสของเงินเดือน”ปัจจัยที่มีผลต่อแรงบันดาลใจในการทำงาน
“การจ่ายค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกับงานที่ให้”—เงื่อนไขง่ายๆที่รู้กันอยู่แล้วในโลกของการทำงาน

“คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”อีกหนึ่งคำถามที่มักถูกถามในการสัมภาษณ์งาน
ในการเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน สิ่งสำคัญก็คือการเตรียมคำตอบสำหรับคำถามที่มักถูกถามในห้องสัมภาษณ์ คำถามหนึ่งที่เห็นได้บ่อยครั้งก็คือ “คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”

ตอบอย่างไรให้ดูดี กับคำถามสัมภาษณ์”เงินเดือนที่คุณคาดหวัง”
เพื่อหางานที่มีลักษณะและเงินเดือนที่เหมาะสมกับความต้องการ การต่อรองเงินเดือนมักไม่ได้เกิดขึ้นในขั้นตอนที่บริษัทตัดสินใจจ้างงาน มักเกิดขึ้นในหลายๆขั้นตอนก่อนหน้านั้น
สอบถามเพิ่มเติม
เกี่ยวกับบริการของเรา