[เด็กจบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ ใครว่าต่อรองเงินเดือนไม่ได้]
การต่อรองเงินเดือนเป็นทักษะที่สำคัญที่ควรมีโดยเฉพาะกับผู้สมัครหางานระดับเริ่มต้นที่ควรฝึกซ้อมไว้ การต่อรองเงินเดือนอาจทำให้รู้สึกอึดอัดใจ แต่การต่อรองก็เป็นสิ่งที่ควรกระทำเพื่อให้ผลตอบแทนมีความเหมาะสมกับทักษะที่มี และทำให้คนทำงานมีกำลังใจมีแรงบันดาลใจในการทำงาน ดังนั้นจงอย่าลังเลที่จะต่อรอง การเรียนรู้ที่จะต่อรองเงินเดือนจะช่วยให้คุณสามารถได้รับเงินเดือนตามที่หวังไว้อย่างไม่ยากเย็น
ต่อรองอย่างไรให้ได้เงินเดือนตามที่หวังไว้ โดยเฉพาะสำหรับเด็กจบใหม่ ยังไม่มีประสบการณ์ เรามีขั้นตอนที่คุณสามารถเตรียมพร้อมเพื่อการต่อรองที่มีประสิทธิภาพและหวังผลได้ดังนี้
- เตรียมตัวที่จะต่อรอง
คุณสามารถเตรียมตัวในการต่อรองเงินเดือนด้วยการเก็บข้อมูลระดับเงินเดือนของธุรกิจบริษัทที่คุณสนใจสมัครงาน การเก็บข้อมูลจะช่วยให้คุณเข้าใจและสามารถรับรู้สถานการณ์ปัจจุบันว่าเงินเดือนที่ควรได้รับอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ ทำให้สามารถตั้งเงินเดือนที่ต้องการได้อย่างเหมาะสมได้ คุณสามารถค้นหาได้ง่ายๆจากเว็บไซต์หางานทั่วประเทศด้วยการระบุตำแหน่งงานที่คุณสนใจลงไป สิ่งที่คุณควรรู้ไม่ใช่ตัวเลขเงินเดือนตัวอย่างแต่เพียงเท่านั้นแต่ต้องเป็น “ช่วงเงินเดือน” ที่ทำให้คุณสามารถต่อรองได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจมากขึ้น
- ระหว่างการสัมภาษณ์งาน
การต่อรองเงินเดือนมักเกิดในช่วงระหว่างการสัมภาษณ์งาน บางงานมีการสัมภาษณ์เพียงหนึ่งครั้ง และบางงานก็มีการสัมภาษณ์มากกว่าสองครั้งขึ้นไป หากเป็นไปได้ควรรอต่อรองในเรื่องของเงินเดือนหลังจากที่บริษัทดูจะสนใจในตัวคุณและยื่นข้อเสนอในการรับคุณเข้าทำงาน
- ได้รับการตอบรับหรือจดหมายข้อเสนอจากทางบริษัท
หากคุณได้รับการตอบกลับหรือจดหมายข้อเสนอจากทางบริษัท นั่นแสดงว่าคุณได้รับการยอมรับและมีทักษะ ความรู้ ความสามารถเพียงพอในการทำงานตำแหน่งงานที่คุณสนใจ นี่เป็นจังหวะที่ดีที่สุดในการเริ่มต่อรองเงินเดือน เพราะคุณได้ผ่านการพิสูจน์ตัวเองในระดับหนึ่งแล้วมีศักยภาพมากพอจะเป็นที่สนใจของบริษัท
ในการตอบกลับจดหมายตอบรับ คุณสามารถแสดงความขอบคุณที่บริษัทพิจารณาและสอบถามโอกาสในการต่อรองเงินเดือนในลำดับถัดไป
- การเริ่มการต่อรอง
คุณสามารถใช้ความรู้และข้อมูลที่คุณมี อาทิ สวัสดิการ และ ช่วงเงินเดือนของตำแหน่งงานเดียวกันในตลาด ในการต่อรองเงินเดือนได้ กลยุทธ์นึงในการต่อรองก็คือการเสนอจำนวนเงินเดือนที่สูงกว่าที่หวังเอาไว้เล็กน้อยเพื่อเปิดโอกาสให้ทางบริษัทต่อรองลดลงมาอีกในช่วงที่คุณรับได้ และเทคนิคที่สำคัญในการต่อรองก็คือ การยกข้อมูลและเหตุผลเพื่อสนับสนุนว่าผลการทำงานของคุณสามารถช่วยเหลือบริษัทได้มากกว่าที่คิด และสมควรได้รับเงินเดือนค่าตอบแทนที่สูงขึ้น
อย่าลืมว่าการต่อรองเงินเดือน เป็นการพูดคุยแบบโต้ตอบกัน ให้ตั้งเป้าหมายไว้ในใจ และ พูดคุยอย่างใจเย็น
- ประนีประนอม
เทคนิคในการต่อรองเงินเดือนมีอยู่หลากหลายวิธีด้วยกัน ซึ่งหลักๆแล้วจะมีอยู่ประมาณ 3 วิธีในการโต้ตอบเพื่อให้ได้เงินเดือนที่หวังไว้
- ยอมรับเงินเดือนที่ได้รับการเสนอมา: บริษัทจะมีการยื่นข้อเสนอใหม่ และถ้าหากจำนวนเงินนั้นเป็นที่สนใจของคุณ คุณก็สามารถตอบรับได้ในทันที และประสบความสำเร็จในการต่อรองได้อย่างไม่ยากเย็น
- ตอบรับเงินเดือนที่ได้รับและยื่นข้อเสนอด้วยเงินเดือนก้อนใหม่: ความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่งก็คือทางบริษัทมีการโต้ตอบด้วยเงินเดือนก้อนใหม่ที่สูงกว่าเงินเดือนที่นำเสนอในครั้งแรก แต่ก็ต่ำกว่าเงินเดือนที่คุณเรียกร้องไป คุณสามารถที่จะต่อรองกลับอีกครั้งหรือตอบตกลงในเงินเดือนที่ได้รับการเสนอล่าสุดได้เพื่อประนีประนอมได้อย่างง่ายขึ้น
- ตอบปฏิเสธข้อเสนอเพื่อเพิ่มโอกาสในการเพิ่มเงินเดือน: ในความเป็นไปได้นี้ แสดงให้เห็นว่าบริษัทค่อนข้างจำกัดเงินเดือนที่สามาถให้ได้กับผู้สมัครงานค่อนข้างมาก คุณสามารถชั่งใจในการรับข้อเสนอหรือหางานในตำแหน่งอื่นได้ เพราะคุณไม่จำเป็นต้องเลือกงานที่ยังไม่ทำให้คุณพอใจได้
สิ่งสำคัญในทุกๆขั้นตอนก็คือ การรักษาความเป็นมืออาชีพ และให้เกียรติกันในระหว่างการต่อรองเงินเดือนเพื่อสร้างภาพลักษณ์และความประทับใจที่ดีต่อกันทั้งสองฝ่าย หากคุณพิจารณาแล้วและคิดว่าการตอบปฎิเสธข้อเสนอเป็นหนทางที่คุณสบายใจที่สุด คุณก็สามารถปฏิเสธได้แต่ด้วยเหตุผลและความขอบคุณในโอกาสที่บริษัทสนใจในตัวคุณ
เทคนิคต่อรองเล็กๆน้อยๆในการเพิ่มเงินเดือนเริ่มต้นถึงแม้คุณจะเป็นเด็กจบใหม่ก็ตาม
- ถามคำถามที่ตรงประเด็น
คุณสามารถสอบถามผู้สัมภาษณ์ได้เช่น “ตำแหน่งนี้ช่วงเงินเดือนที่บริษัทให้อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่” คำถามนี้จะข่วยให้คุณเข้าใจสถานการณ์ภาพรวม เริ่มต้นต่อรอง และมองไปถึงอนาคตในการทำงานสายอาชีพในบริษัทนี้ได้
- อย่ายอมรับเงินเดือนที่ต่ำเกินไป
หากบริษัทเสนอเงินเดือนที่ต่ำเกินไปจากช่วงเงินเดือนที่คุณคาดหวังไว้ มีความจำเป็นที่คุณจะต้องไม่ยอมจำนนต่อเงินเดือนจำนวนนั้นโดยไม่ทำการต่อรอง หากคุณตั้งมั่นกับช่วงเงินเดือนที่หวังไว้โดยไม่ยอมให้เงินเดือนต่ำกว่านี้ จะทำให้แนวโน้มการได้เงินเดือนที่สูงขึ้นเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น
- นำเสนอทักษะ ความสามารถ และความสำเร็จที่คุณเคยทำ
โดยเฉพาะสำหรับผู้สมัครที่เป็นนักศึกษาจบใหม่หรือยังไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน เป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องแสดงให้ผู้สัมภาษณ์ได้เห็นว่าคุณมีคุณค่ามากพอที่จะได้รับเงินเดือนมากขึ้น คุณสามารถยกตัวอย่างความสำเร็จและผลของการทำกิจกรรมที่ช่วยให้คุณดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น กิจกรรมที่ทำในมหาวิทยาลัย หรือ การทำโปรเจคต่างๆในภาคเรียนที่คุณทำให้กลุ่มประสบความสำเร็จได้
- พิจารณาสวัสดิการและผลตอบแทนอื่นๆเพิ่มเติม
เงินเดือนไม่ได้รูปแบบเดียวของสิ่งตอบแทนที่คุณจะได้รับจากการทำงาน ยังมีสวัสดิการและค่าตอบแทนที่มาในรูปแบบต่างๆอีกมากมายที่คุณสามารถต่อรองได้ อาทิ
ค่าอบรมในคอร์สเรียน : หากบริษัทปฏิเสธที่จะให้เงินเดือนกับคุณมากขึ้นเพราะมีทักษะที่ยังไม่เพียงพอ คุณสามารถต่อรองเพื่อขอเข้าอบรมในคอร์สเรียนที่สามารถเพิ่มทักษะในการทำงานได้โดยได้รับเงินสนับสนุนจากบริษัท ซึ่งจะทำให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่าคุณมีความกระตือรือล้นที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ค่าเดินทางในการทำงาน : โดยเฉพาะกับการทำงานในบริษัทญี่ปุ่น หากคุณต้องเดินทางมาไกลเพื่อมาทำงาน บริษัทจะให้ค่าเดินทางเป็นพิเศษกับพนักงาน
ทำงานโดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศ: อีกวิธีการหนึ่งในการต่อรองหากที่พักของคุณและบริษัทนั้นห่างไกลกันมากและใช้เวลาเดินทางนาน คุณสามารถต่อรองในการทำงานที่บ้านโดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศได้ ถึงแม้จะไม่ทุกวัน แต่หากไม่ต้องเข้าทำงานที่ออฟฟิศทุกวันก็จะสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้มาก
ตารางงานที่ยืดหยุ่น : หากคุณพึ่งมีลูกหรือเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ คุณสามารถต่อรองในการจัดตารางงานที่ยืดหยุ่นได้ซึ่งอาจทำให้งานที่มีเงินเดือนน้อยนั้นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
วันพักร้อน : หากมีวันลาหยุดพักร้อนที่สามารถลาได้จำนวนมากกว่าที่อื่นๆ งานที่เงินเดือนน้อยก็สามารถน่าสนใจได้โดยเฉพาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์ออกเดินทางท่องเที่ยว
- เลิกด้อยค่าตัวเอง
การด้อยค่าตัวเองระหว่างการค้นหางานคือความเชื่อที่ว่าคุณไม่มีทักษะหรือประสบการณ์เพียงพอหรือไม่สำคัญ การนึกถึงคุณค่าของตัวเองเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการต่อรองเงินเดือน การแสดงออกให้เห็นถึงความมั่นใจในทักษะที่คุณได้ระบุไว้ในใบสมัครงาน และระหว่างการสัมภาษณ์ จะช่วยให้คุณลดการด้อยค่าตัวเอง และเพิ่มความสนใจที่มีต่อผู้สัมภาษณ์ได้
- มุ่งมั่นเสนอตัวในฐานะการเป็นคำตอบในการแก้ไขปัญหา
ในระหว่างการสัมภาษณ์ คุณสามารถสอบถามหาปัญหาที่องค์กรต้องเผชิญอยู่จากการขาดพนักงานในตำแหน่งที่คุณสมัคร พยายามเสนอตัวในฐานะคนแก้ไขปัญหาและคนที่จะมาช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นได้
ท่านใดที่กำลังหางานที่สามารถแสดงศักยภาพของตัวเองให้ได้มากที่สุดในบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย ทาง PASONA ก็ยินดีเป็นอีกกำลังสำคัญในการสนับสนุนช่วยให้ท่านหางานที่ใช่ได้โดยเร็วนะครับ
………………………………………………………
สามารถติดตามข่าวสาร ตำแหน่งงานจากบริษัทญี่ปุ่นทั่วประเทศ และงานอบรมออนไลน์ได้ในเฟสบุ๊ค PASONA ที่นี่ได้เลย
FREE Registration : สามารถลงทะเบียนข้อมูลเบื้องต้นเพื่อหางานและฝากใบสมัครโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่
>>> https://pasona.co.th/registration-form/ <<<
………………………………………………………
หางานที่ใช่ ได้งานที่ชอบ ต่อยอดความฝัน ไปให้ถึงเป้าหมาย กับ PASONA
☎️ Contact: Career Consultant
Phone: 02-108-1250
Email: info@pasona.co.th
หางาน หาคน หาคอร์สอบรม และ บริการต่างๆที่ช่วยพัฒนาองค์กร ได้ที่ PASONA
#หางาน #สมัครงาน #หางานกทม. #หางานทำ #หางานบริษัทญี่ปุ่น #ฝากประวัติ #ค้นหางาน #PASONA #สัมภาษณ์งาน
บทความที่เกี่ยวข้อง
“ความโปร่งใสของเงินเดือน”ปัจจัยที่มีผลต่อแรงบันดาลใจในการทำงาน
“การจ่ายค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกับงานที่ให้”—เงื่อนไขง่ายๆที่รู้กันอยู่แล้วในโลกของการทำงาน
“คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”อีกหนึ่งคำถามที่มักถูกถามในการสัมภาษณ์งาน
ในการเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน สิ่งสำคัญก็คือการเตรียมคำตอบสำหรับคำถามที่มักถูกถามในห้องสัมภาษณ์ คำถามหนึ่งที่เห็นได้บ่อยครั้งก็คือ “คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”
ตอบอย่างไรให้ดูดี กับคำถามสัมภาษณ์”เงินเดือนที่คุณคาดหวัง”
เพื่อหางานที่มีลักษณะและเงินเดือนที่เหมาะสมกับความต้องการ การต่อรองเงินเดือนมักไม่ได้เกิดขึ้นในขั้นตอนที่บริษัทตัดสินใจจ้างงาน มักเกิดขึ้นในหลายๆขั้นตอนก่อนหน้านั้น
สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของเรา
Thailand Head Quarter
26th Floor, Sathorn Square
Office Tower,
98 North Sathorn Road, Silom,
Bangrak, Bangkok 10500, Thailand
TEL: +662-108-1250
E-mail: info@pasona.co.th
เตรียมตัวสัมภาษณ์อย่างไร ให้ได้งาน
การสมัครงานทุกวันนี้ มีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ด้วยความทันสมัย และเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้เราสามารถสมัครงานผ่านเว็บไซต์ได้ หรือส่งประวัติผ่านอีเมลล์ได้ แต่ขั้นตอนสำคัญที่สุดในการที่เราจะได้ร่วมงานกับบริษัทที่เราใฝ่ฝัน ก็คือ การสัมภาษณ์งาน ซึ่งเราจะได้มีโอกาสเข้ามาดูบรรยากาศการทำงาน สถานที่ทำงาน รวมถึงได้พบกับบุคคลากรของบริษัทนั้นๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่เราจะได้แสดงตัวตนของเรา และสร้างความประทับใจให้กับบริษัทได้โดยตรง
เพราะฉะนั้น การเตรียมความพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งาน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก นอกจากเรื่องบุคลิกภาพ การแต่งกายที่เราได้พูดถึงในบทความก่อนหน้านี้แล้ว (สามารถอ่านได้ที่บทความนี้ : https://pasona.co.th/b/1144)
การเตรียมพร้อมสำหรับคำถาม รวมถึงข้อมูลบริษัทก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน หรืออาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะเป็นวัดทัศนคติ และความเหมาะสมสำหรับตำแหน่งงานนั้นๆอย่างแท้จริง แน่นอนว่าเราไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์จะถามกับเราได้ แต่เราสามารถเตรียมตัวสำหรับแนวคำถามต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับตัวเองได้ ถ้าอย่างนั้นเรามาเตรียมความพร้อมกันดีกว่าค่ะว่าคำถามที่มักจะเจอในการสัมภาษณ์งานมีอะไรบ้าง ซึ่งแนวคำถามต่างๆที่พบเจอได้บ่อยครั้งในการสัมภาษณ์ จะขอยกตัวอย่างจากเว็บไซต์หางานชื่อดัง JobsDB.com
คำถาม : เล่าเรื่องคุณให้เราฟังหน่อย
แนวทางการตอบ : คำถามนี้แม้จะเหมือนกับทางบริษัทอยากรู้จักคุณเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่ควรเล่าเรื่องส่วนตัว เช่น คุณเป็นคนอย่างไร ชอบอะไรหรือมีงานอดิเรกอะไร ควรเน้นเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของคุณ เรียนจบอะไรมา มีประสบการณ์การทำงานอะไรมาบ้าง และเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเตรียมตัวเป็นผู้สมัครที่ดีที่สุดของงานนี้ โดยในแต่ละเรื่องที่คุณเล่าควรมีเหตุการณ์หรือมีการยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมประกอบด้วย
คำถาม : ทำไมเราควรจ้างคุณ
แนวทางการตอบ : คุณสามารถตอบได้ว่าคุณเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้โดยให้เหตุผลที่เหมาะสมเพิ่มเติม ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อจะตอบคำถามนี้ให้ได้ดีคือ รายละเอียดของตำแหน่งงานและบริษัทที่คุณสมัคร และสิ่งที่คุณจะสามารถให้กับองค์กรได้ ความรู้ความสามารถใดที่มีแต่อาจจะยังไม่เกี่ยวกับตำแหน่งนี้โดยตรงก็สามารถยกขึ้นมาพูดได้หากคุณเล็งเห็นว่ามันจะมีประโยชน์กับองค์กรได้ในอนาคต
คำถาม : ทำไมคุณจึงสนใจงานนี้/ ทำไมคุณจึงลาออกจากที่ทำงานเก่า
แนวทางการตอบ : สำหรับสองคำถามนี้ให้ตอบโดยเน้นไปที่ตัวงาน ไม่ใช่เงินเดือน สวัสดิการที่ดีกว่า เช่น สนใจงานนี้เพราะมีความท้าทายในตัวงานที่คุณคิดว่าคุณสามารถทำได้จากคุณสมบัติที่คุณมี โดยยกเหตุผลและตัวอย่างด้วย เช่นเดียวกับคำถามเรื่องการลาออกจากที่เก่าก็สามารถตอบได้ในทำนองเดียวกัน โดยควรหลีกเลี่ยงการพูดถึงปัญหาความสัมพันธ์กับเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานหรืออะไรก็ตามที่เป็นการพูดในแง่ไม่ดีถึงบริษัทเก่าของคุณ
คำถาม : ข้อด้อยของคุณคืออะไร
แนวทางการตอบ : หลายคนเลือกตอบคำถามนี้ด้วยการพยายามทำให้ข้อด้อยกลายเป็นข้อดีขึ้นมาเพราะไม่อยากพูดถึงข้อเสียของตัวเอง เช่น เป็นคนให้ความสำคัญกับงานมากจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น อาจจะดูเหมือนเป็นคำตอบที่ดีแต่ก็แฝงไปด้วยความหมายว่าคุณบริหารจัดการเวลาไม่ค่อยเป็น ในความเป็นจริงแล้วคุณสามารถพูดถึงข้อด้อยของตัวเองได้อย่างตรงไปตรงมาแต่ควรเป็นสิ่งที่คุณได้พยายามแก้ไขจนดีขึ้นแล้ว ยกตัวอย่างเช่น เคยเป็นคนบริหารจัดการเวลาไม่ค่อยเป็นทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้ชีวิตส่วนตัว ภายหลังจึงเลือกใช้วิธีจัดลำดับความสำคัญของงาน จัดทำ to do list หรือใช้ application มือถือช่วยจัดตารางการทำงานเป็นต้น
คำถาม : เป้าหมายระยะยาวของคุณคืออะไร
แนวทางการตอบ : บางครั้งอาจจะเป็นคำถามว่าคุณเห็นตัวเองเป็นอย่างไรใน 5 ปีต่อจากนี้ คุณสามารถตอบได้ตามความฝันของคุณ เช่นอยากนั่งตำแหน่งหัวหน้างานหรือผู้จัดการแผนก แต่ก็ควรพิจารณาเลือกเป้าหมายที่มีความเป็นไปได้ตามกรอบเวลานั้น และควรยกตัวอย่างประกอบด้วยว่าคุณวางแผนอย่างไรที่จะไปถึงเป้าหมาย คุณจะพัฒนาความสามารถอย่างไรให้เหมาะสมกับตำแหน่งนั้น ความท้าทายและอุปสรรคในการเดินไปถึงจุดหมายคืออะไรและคุณคิดว่าจะจัดการกับมันอย่างไร
จะเห็นได้ว่าการตอบคำถามในการสัมภาษณ์งานนั้นคุณไม่จำเป็นต้องคิดคำตอบให้สวยหรูดูดีเสมอไป การตอบตามความเป็นจริงนั้นดีที่สุด เพราะเป็นประสบการณ์ตรงในชีวิตที่ไม่ต้องอาศัยการท่องจำจนขาดความเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้การพูดถึงสิ่งใดก็ตามควรมีหลักฐานหรือตัวอย่างสนับสนุนคำพูดของคุณเสมอ การซ้อมตอบคำถามเหล่านี้หลายครั้งก่อนวันสัมภาษณ์จริงจะช่วยให้คุณสามารถเลือกคำตอบที่ดีที่สุดได้ค่ะ
คำถาม : คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง
แนวทางการตอบ : ทุกครั้งที่สมัครงาน เราจำเป็นที่จะต้องรู้และเข้าใจรายละเอียดที่สำคัญของบริษัทนั้นๆ เช่น ประวัติบริษัท ผลิตภัณฑ์ ภาพลักษณ์องค์กร กลุ่มลูกค้า หากมีสิ่งที่เรารู้สึกประทับใจเกี่ยวกับบริษัทนั้นๆ ก็สามารถแสดงความชื่นชมได้อย่างเหมาะสม เพื่อแสดงให้บริษัทที่เราไปสัมภาษณ์เห็นว่าคุณมีความพร้อม และต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทนั้นอย่างแท้จริง
สำหรับข้อแนะนำเพิ่มเติมในฐานะ Consultant ของบริษัทจัดหางาน Pasona คือเรื่องของการรักษามารยาทในการสมัครงาน ควรมีความสำรวม ให้เกียรติผู้สัมภาษณ์ สบตาอย่างจริงใจ ไม่หลบสายตา แต่ไม่จ้องตาจนเกินงาม เป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส กระตือรือร้น เป็นผู้พูด และผู้ฟังที่ดี มีความมั่นใจในตัวเอง แต่ก็ยังคงความนอบน้อม หรือสรุปง่ายๆก็คือ เราควรเป็นตัวของตัวเองในแบบที่ดีที่สุดค่ะ
นอกจากนี้ หลังจากที่คุณได้เตรียมตัวในการสัมภาษณ์งานมาอย่างดีแล้ว แต่ดันมาเจอคำถามที่ไม่คาดคิดว่าจะถูกผู้สัมภาษณ์ถาม ก็เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน งั้นลองมาเตรียมพร้อมสำหรับคำถามแปลกๆกันบ้าง เพื่อเตรียมความพร้อมให้เรารู้สึกมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
ขอยกตัวอย่างคำถามแปลกๆ จากเว็บไซต์ JobThai.com/REACH ดังต่อไปนี้ค่ะ
ทำไมฝาท่อระบายน้ำต้องเป็นรูปวงกลม ?
ทั้งคำถาม “ทำไมฝาท่อระบายน้ำต้องเป็นวงกลม” และคำถามว่า “คุณจะเคลื่อนย้ายภูเขาไฟฟูจิได้อย่างไร” ต่างก็เคยปรากฏในเนื้อหาของหนังสือที่มีชื่อว่า “How Would You Move Mount Fuji? Microsoft’s Cult of the Puzzle: How the World’s Smartest Company Selects the Most Creative Thinkers” ซึ่งแค่ชื่อหนังสือก็พอจะบอกได้ว่าองค์กรไอทีระดับโลกอย่าง Microsoft นั้นมีกระบวนการสัมภาษณ์งานที่โหดหินเพียงใด เพราะพวกเขามักจะสอดแทรกคำถามเชิงตรรกศาสตร์และคำถามเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาลงไปในรายการคำถามสำหรับคัดเลือกผู้สมัครงานด้วย
เมื่อเจอคำถามแบบนี้ คุณต้องอธิบายเหตุผลให้ได้ว่าทำไมถึงคุณถึงตอบแบบนั้น เช่น การตอบคำถาม ว่า “ทำไมฝาท่อระบายน้ำต้องเป็นรูปวงกลม” อาจจะอธิบายว่าฝาที่เป็นวงกลมจะทำให้กรอบของท่อนั้นแข็งแรงเพราะมีการกระจายน้ำหนักเท่ากันโดยรอบ ซึ่งต่างจากฝารูปร่างอื่น ๆ เช่น รูปสี่เหลี่ยม หรือฝาท่อแบบวงกลมไม่มีทางที่จะหล่นลงไปในท่อได้ ซึ่งฝาท่อรูปทรงสี่เหลี่ยมมีโอกาสจะตกลงไปได้หากถ้าฝาท่อสี่เหลี่ยมถูกพลิกด้านข้าง หรือคำตอบอะไรก็ได้ที่แสดงว่าคุณคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล เชื่อมโยงและสนับสนุนกับคำตอบของคุณ
ถ้าคุณเป็นก้อนอิฐในกำแพง คุณอยากจะเป็นก้อนอิฐก้อนไหน และทำไม?
คำถามที่ว่า “ถ้าคุณเป็นก้อนอิฐในกำแพง คุณอยากจะเป็นก้อนอิฐก้อนไหนและทำไม” หรือคำถามว่า “หากคุณเลือกเป็นสัตว์ได้หนึ่งชนิด คุณอยากเป็นอะไรและทำไม” คำถามเหล่านี้มีไว้เพื่อให้คุณได้แสดงบุคลิกภาพของคุณ คำตอบของคุณจะบ่งบอกนิสัยและคุณสมบัติบางอย่าง
เมื่อคุณเจอคำถามประเภทนี้คุณต้องคิดให้รวดเร็วและรอบคอบ จากนั้นจึงตอบคำถามโดยอาศัยสิ่งที่คุณมีอยู่หรือสิ่งที่คุณได้ทำการบ้านล่วงหน้ามาก่อน เช่น ถ้าคุณเตรียมตัวตอบคำถามประเภทข้อดี–ข้อเสียของตัวคุณ คุณสามารถนำการตอบแบบนั้นมาผสมผสานกับการตอบคำถามประเภทนี้ได้ ถ้าจะตอบคำถามว่า “อยากเป็นอิฐก้อนไหน” คุณอาจจะตอบว่า “ฉันอยากจะเป็นอิฐก้อนแรกที่อยู่ที่ฐานล่างสุดของกำแพง เพราะฉันเป็นคนที่หนักแน่น คนอื่นไว้วางใจได้ ถ้าใครได้ทำงานด้วยก็มั่นใจได้เลยว่าฉันจะไม่ทำให้ผิดหวัง ฉันจะคอยเป็นฐานที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุนคนอื่น ๆ ในทีมเอง”
อย่าลืมว่าท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าคำถามจะแปลกแค่ไหน คิด พิจารณาทุกอย่างให้ดีก่อนตอบคำถามนั้นออกไป เพราะทุกคำถามก็เป็นไปเพื่อการทดสอบความเหมาะสมของคุณกับตำแหน่งงานนั้น ๆ อยู่ดี
นอกจากนี้ทาง Pasona ยังมีคำถามสัมภาษณ์งานโดยรวบรวมจาก Consultant ชาวญี่ปุ่นมาฝากให้กับผู้สมัครงานที่สนใจสมัครงานกับบริษัทญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ หากคุณกำลังสนใจ หรือกำลังได้สัมภาษณ์กับบริษัทญี่ปุ่น เราขอแนะนำให้ลองฝึกตอบคำถามดังต่อไปนี้ค่ะ
- แนะนำตัวเองอะไรก็ได้ ภายในหนึ่ง หรือ สองนาที
- ทำไมถึงอยากร่วมงานกับเรา
- คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง
- จงบอกข้อดี ข้อเสียของคุณ
เทคนิค คือ ควรตอบข้อเสียที่มาพร้อมกับแผนการว่าจะพัฒนา หรือแก้ไขข้อเสียได้อย่างไร
- กิจกรรมที่เข้าร่วมในขณะเรียนมหาลัย หรือประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา เช่น จิตอาสา กีฬา หรือทำPart Time เพื่อดูประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร ว่าผู้สมัครมีความเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นๆหรือไม่
- เนื้อหาข่าวที่ผู้สมัครสนใจ เช่น ข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สำหรับตำแหน่งงานทั่วไป ว่าเป็นคนสนใจเหตุการณ์ รอบรู้หรือไม่ ผู้สมัครควรมีความรู้เกี่ยวกับข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สังคม อย่างใดอย่างหนึ่ง
- ระยะเวลาในการทำงาน เทคนิคการตอบคือ ควรมีความตั้งใจที่จะทำงานกับทางบริษัทมากกว่าห้าปี
- ในการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้าย บริษัทอาจจะถามว่า บริษัทของเราเป็นที่ที่คุณให้ความสำคัญ หรืออยากร่วมงานเป็นอันดับแรกหรือไม่ ผู้สมัครไม่ควรตอบไปว่าสัมภาษณ์หลายที่ ควรมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมงานกับทางบริษัทจริงๆ
- มีคำถามอะไรอยากจะถามเรารึเปล่า เป็นคำถามเพื่อวัดว่าสนใจบริษัทเรา หรืองานนั้นจริงๆหรือไม่
จะเห็นได้ว่าคำถามที่สัมภาษณ์ในไทย กับญี่ปุ่นจะค่อนข้างคล้ายกัน มีจุดแตกต่างเพียงกันเล็กน้อย คือ เรื่องของความสนใจเกี่ยวกับข่าวสารบ้านเมือง เพื่อดูว่าเป็นคนสนใจสิ่งรอบตัว หรือพอมีความรู้รอบตัวบ้างหรือไม่ และเรื่องของระยะเวลาการทำงานที่ทางญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับความจงรักภักดีในองค์กร โดยคาดหวังให้พนักงานทำงานกับบริษัทไปนานๆ
แต่จะให้ฝึกตอบคำถามทั่วไปแบบนี้ ก็อาจจะธรรมดาไปหน่อย ทาง Pasona จึงได้นำแนวคำถามแปลกๆในการสัมภาษณ์งานจากทางญี่ปุ่นบางส่วนมาให้ผู้สมัครงานฝึกตอบคำถามกันด้วยค่ะ
- ให้พรีเซ็นท์ หรือหาวิธีเพื่อเปลี่ยนทัศนคติของผู้สัมภาษณ์ เช่น เป็นคนไม่ชอบเขียนจดหมาย ทำอย่างไรให้ชอบเขียนจดหมาย หรือ ไม่ชอบดูหนัง จะนำเสนอยังไงให้ชอบดูหนัง
- มีรูปมาให้ เป็นวัสดุหนึ่งชิ้น แล้วถามว่า สิ่งนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง ให้บอกมา 10 ข้อ (คำถามในการสมัครบริษัทให้คำปรึกษา เป็นแบบ brainstorm เพื่อดูทักษะความคิดสร้างสรรค์ และการคิดเชิงตรรกะ
- ให้ผู้สมัครงานเป็นผู้สัมภาษณ์คนของบริษัท หลังจากเป็นผู้ถูกสัมภาษณ์ ให้สลับบทบาทกัน เพื่อดูว่าผู้สมัครงานเตรียมความพร้อมมามากแค่ไหน
และอีกหนึ่งคำถามที่น่าสนใจในด้านกระบวนการคิดคำนวณ จากบริษัท Consulting ที่จะขอยกตัวอย่างมาจากเว็บไซต์ JobThai.com/REACH ค่ะ
- ในประเทศญี่ปุ่นมีร้านทำผมสตรีกี่ร้าน
คนสัมภาษณ์ต้องการเปิดโอกาสให้คุณได้แสดงทักษะและกระบวนการคิดของคุณ เมื่อคุณถูกถามแบบนี้ คุณต้องเรียบเรียงความคิดของคุณออกมาเป็นคำพูดให้ดี คุณอาจจะเริ่มด้วยการวิเคราะห์ เช่น เราต้องรู้จำนวนประชากรของประเทศญี่ปุ่นก่อน และเราต้องค้นหาว่าคนญี่ปุ่นทำผมคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของคนทั้งประเทศและพวกเขาทำผมบ่อยแค่ไหน
ซึ่งบ่อยครั้งที่ผู้สมัครมักจะตอบคำถามที่เหนือความคาดหมายไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้เตรียมความพร้อมสำหรับคำถามเหล่านี้มา เราจึงควรฝึกตอบคำถามที่มีความแปลก และไม่คาดคิดว่าจะถูกถามไว้ด้วย โดยเริ่มฝึกจากคำถามที่ทาง Pasona ได้ยกตัวอย่างมา และจากเว็บไซต์ต่างๆเพิ่มเติมได้ค่ะ เพื่อที่ว่าเราจะได้มีสกิลในการตอบคำถามเพิ่มขึ้น และไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป
เมื่อเรารู้แนวทางการสัมภาษณ์งานแล้ว ก็อย่าชะล่าใจเชียวค่ะ รีบมาฝึกตอบคำถามเพื่อเตรียมความพร้อมในการสัมภาษณ์งานกันดีกว่า เพราะถ้าเราหมั่นฝึกฝนตัวเองจนมีความพร้อมแล้ว รบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง เช่นเดียวกันกับการสมัครงานค่ะ ถ้าเราหมั่นฝึกตอบคำถามควบคู่ไปกับการฝึกฝนทักษะต่างๆอย่างสม่ำเสมอ สมัครงานกี่ครั้งก็ผ่านทุกครั้งแน่นอนค่ะ ทาง Pasona ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่กำลังจะได้สัมภาษณ์งานได้งานที่ตรงกับใจต้องการกันนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
“ความโปร่งใสของเงินเดือน”ปัจจัยที่มีผลต่อแรงบันดาลใจในการทำงาน
“การจ่ายค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกับงานที่ให้”—เงื่อนไขง่ายๆที่รู้กันอยู่แล้วในโลกของการทำงาน
“คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”อีกหนึ่งคำถามที่มักถูกถามในการสัมภาษณ์งาน
ในการเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน สิ่งสำคัญก็คือการเตรียมคำตอบสำหรับคำถามที่มักถูกถามในห้องสัมภาษณ์ คำถามหนึ่งที่เห็นได้บ่อยครั้งก็คือ “คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”
ตอบอย่างไรให้ดูดี กับคำถามสัมภาษณ์”เงินเดือนที่คุณคาดหวัง”
เพื่อหางานที่มีลักษณะและเงินเดือนที่เหมาะสมกับความต้องการ การต่อรองเงินเดือนมักไม่ได้เกิดขึ้นในขั้นตอนที่บริษัทตัดสินใจจ้างงาน มักเกิดขึ้นในหลายๆขั้นตอนก่อนหน้านั้น
สอบถามเพิ่มเติม
เกี่ยวกับบริการของเรา