10 คำถามที่มักถูกหยิบขึ้นมาระหว่างการสัมภาษณ์งานของบริษัทญี่ปุ่น
admin-kanato HR Consulting, บทความทั้งหมด คำถามสัมภาษณ์งาน, บริษัทญี่ปุ่น, สัมภาษณ์งาน, เทคนิคสัมภาษณ์งาน

[10 คำถามที่มักถูกหยิบขึ้นมาระหว่างการสัมภาษณ์งานของบริษัทญี่ปุ่น]
ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดและเรียกได้ว่าเป็นจุดตัดสินในการได้เข้าทำงานโดยเฉพาะในบริษัทญี่ปุ่นก็คือ “การสัมภาษณ์” ซึ่งจากประสบการณ์ในการดูแลผู้หางานจำนวนมาก มีผู้สมัครจำนวนไม่น้อยเลยที่มีความสามารถมากอยู่ในตัวแต่ต้องพลาดไปอย่างน่าเสียดายเพราะว่าตอบคำถามได้ไม่ชัดเจนหรือคิดคำตอบระหว่างสัมภาษณ์ได้ไม่ดีนัก
เพื่อเป็นประโยชน์ในการเตรียมตัวและเตรียมคำตอบก่อนเข้าสัมภาษณ์ให้กับผู้หางานทุกท่าน เพราะโอกาสดีๆในการเข้าสัมภาษณ์แต่ละครั้งไม่ได้มาง่ายๆ และเมื่อผ่านไปแล้วก็อาจจะไม่ได้เวียนกลับมาในระยะเวลาสั้นๆ วันนี้เราจึงได้รวบรวมคำถามที่ผู้สัมภาษณ์มักใช้ถามระหว่างการสัมภาษณ์ โดยเฉพาะจากผู้สัมภาษณ์ของบริษัทญี่ปุ่น
- แนะนำตัวเอง
คำถามสั้นๆที่หลายๆคนไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ซึ่งในคำถามนี้ไม่จำเป็นต้องยาวเหยียด ขอแค่เน้นส่วนสำคัญที่ผู้สัมภาษณ์ควรรู้จักเรามากยิ่งขึ้น อาทิ เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ สถาบันที่จบการศึกษามา สิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งทักษะจุดขาย และเป้าหมายในการทำงาน ก็เพียงพอแล้ว การพูดถึงเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานอย่าง สมาชิกในครอบครัว สีที่ชอบ อาหารที่ชอบ หรืองานอดิเรกที่ไม่ได้มีประโยชน์ต่องาน อาจทำให้เราถูกหักคะแนนในการสัมภาษณ์งานได้
- ประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมาตามลำดับ
อธิบายประสบการณ์การทำงานที่มี โดยไม่จำเป็นต้องอธิบายอย่างละเอียดทุกงาน เน้นเฉพาะการอธิบายช่วงการทำงานที่ได้รับหน้าที่และมีความเกี่ยวข้องกับการนำความสามารถที่มีมาปรับใช้กับตำแหน่งที่กำลังสัมภาษณ์อยู่ได้
- เหตุผลที่เลือกสมัครหรืออยากทำงานในบริษัท
มีคำตอบมากมายที่สามารถตอบได้สำหรับคำถามนี้ แต่เราก็ควรคิดให้รอบคอบก่อนเลือกคำตอบที่จะสร้างความประทับใจให้ได้มากที่สุด อาทิ
- ได้ยินชื่อเสียงของบริษัทมานานแล้ว และมีคนรู้จักทำงานที่นี่ก็แชร์ประสบการณ์ดี ๆของบริษัทให้ฟังเสมอ
- ตำแหน่งงานนี้น่าสนใจ สอดคล้องกับเป้าหมายของตัวเอง บริษัทก็น่าร่วมงาน คิดว่าถ้าได้มาเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ คงทำงานอย่างมีความสุข
- ประทับใจกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆของบริษัท อาทิ กิจกรรม CSR และกิจกรรมคืนกำไรให้สังคม
- เป็นบริษัทอันดับต้น ๆ ของประเทศ ซึ่งมุ่งเน้นพัฒนาบุคลากร และตอบแทนสังคมควบคู่ไปด้วยกัน
ส่วนคำตอบที่ไม่แนะนำให้ตอบ อาทิ เรื่องเงินเดือน เรื่องของสวัสดิการ หรือ เรื่องที่บริษัทอื่นๆสามารถให้ได้ ซึ่งอาจถูกมองได้ว่าถ้าบริษัทอื่นมีการนำเสนอข้อเสนอที่ดีกว่า คุณอาจจะลาออกและย้ายไปในทันทีก็เป็นได้
- ข้อดี-ข้อเสีย ของตัวเอง
คำถามพื้นฐานอีกคำถามหนึ่งที่มักถูกถามก็คือ “ข้อดี ข้อเสียของตัวเอง” ซึ่งข้อดีข้อเสียนี้ ควรตอบสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการทำงานเป็นหลัก โดยเฉพาะเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัครไป ข้อไหนที่ไม่เกี่ยวกับงานก็ไม่ควรหยิบมาใช้ตอบ
ข้อดีที่ควรตอบคือการพูดถึงความสามารถ ประสบการณ์ ความรู้ต่าง ๆ ที่เรามีอย่างตรงไปตรงมา ไม่ยกยอตัวเองเกินจริง ก็จะสามารถสร้างความประทับใจ ให้เกิดความเชื่อมั่นว่า เรามีคุณสมบัติมีความสามารถตรงตามที่บริษัทต้องการ อาทิ นิสัยส่วนตัว ทักษะ และ ประสบการณ์ที่สั่งสมมา
ข้อเสียที่ควรตอบคือ ข้อเสียที่ไม่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานโดยตรง และสามารถนำเหตุผลหรือข้อดีข้ออื่นมาหักล้างได้ อาทิ เป็นคนทำงานช้าบ้าง เพราะใส่ใจรายละเอียดมากเกินไป แต่ถ้าเป็นงานสำคัญก็จะพยายามบริหารจัดการเวลาให้ดีมากขึ้น เป็นต้น
- เหตุผลที่ลาออกจากที่เก่า
เพราะการย้ายงานแต่ละครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และผู้สัมภาษณ์ต้องการรู้ว่าเราต้องการอะไรจากงานใหม่ที่กำลังหาอยู่ ควรเตรียมคำตอบที่มีลักษณะดังนี้
- ตอบแบบมืออาชีพไม่ใช่จากอารมณ์ความรู้สึกส่วนตัว
- ซื่อสัตย์ในคำตอบ ไม่โกหก ไม่สร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองดูดี
- พูดด้วยความมั่นใจจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในคำตอบ
- ตอบให้สั้นกระชับ ไม่ลากยาว
- แสดงทัศนคติเชิงบวก ถึงแม้ความจริงจะโหดร้ายเพียงไหน
- ความสำเร็จที่ผ่านมา
เริ่มต้นคำตอบด้วยความสำเร็จที่ผ่านมาของตัวเอง ที่สามารถโยงเข้ากับสิ่งที่เราจะทำให้สำเร็จในอนาคตในบริษัทที่สัมภาษณ์อยู่นี้ เช่น ยกตัวอย่างงานที่เราเคยทำหรือเป้าหมายที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว สิ่งนั้นสามารถปรับมาใช้ในบริษัทนี้ได้อย่างไร และจะสร้างผลงานแบบไหนให้กับองค์กรนี้ เราอาจต้องนำผลงานเก่า ๆ ที่เผยแพร่ได้มาช่วยในการทำให้ผู้สัมภาษณ์เห็นภาพความสำเร็จที่เราจะนำมาให้ - ปัญหาในการทำงานที่ผ่านมาและวิธีการแก้ปัญหา
หากคุณเคยมีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อนแล้ว การได้พบปัญหาในระหว่างการทำงานเป็นเรื่องปรกติของชีวิตพนักงานบริษัท ผู้สัมภาษณ์ต้องการทราบว่าปัญหาอะไรที่เกิดขึ้นมาจนคุณคิดว่าเป็นปัญหาที่น่าจดจำ และที่สำคัญก็คือ คุณสามารถแก้ไขหรือมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหานั้นอย่างไร ผู้สัมภาษณ์ต้องการทราบถึงความสามารถในการคิด ใช้สติ วิเคราะห์ และแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะหากเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นประจวบเหมาะกับบริษัทนี้อยู่พอดี ทางผู้สัมภาษณ์จะเห็นแววว่าคุณอาจเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการทำให้บริษัทเติบโตและก้าวข้ามผ่านปัญหาต่างๆไปได้ - ความรู้และความเข้าใจในความแตกต่างระหว่างบริษัทไทย-ญี่ปุ่น
ด้วยความที่วัฒนธรรมการทำงานของบริษัทไทยและบริษัทญี่ปุ่นมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง พนักงานที่คุ้นชินกับวัฒนธรรมแบบไทยๆอาจจะไม่สามารถปรับตัวเข้ากับองค์กรญี่ปุ่นได้ ดังนั้นหากคุณมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะการทำงาน การวางตัว สิ่งแวดล้อม รวมทั้งระบบการทำงานขององค์กรญี่ปุ่น อาทิ การตรงต่อเวลา, การพูดคุยในที่ทำงาน, ความรับผิดชอบร่วมกัน รวมทั้งสวัสดิการ ก็จะทำให้ผู้สัมภาษณ์มองเห็นได้ว่าคุณสามารถปรับตัวให้เข้ากับองค์กรได้ดีกว่าผู้สมัครงานคนอื่นๆได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
- อนาคตในการทำงานที่วางไว้
เป็นคำถามที่ถามเพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อรับเข้ามาทำงานแล้ว จะไม่ลาออกในระยะเวลาอันสั้น และนอกจากนั้นยังเป็นการตรวจสอบว่าเป้าหมายของทั้งสองฝ่าย สามารถเดินร่วมทางกันไปได้หรือไม่ ทำให้คำตอบในเรื่องอนาคตก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่บริษัทใช้ในการรับพิจารณาตอบรับเข้าทำงานเช่นกัน
- คำถามที่ให้ถามเพิ่มเติม
คนส่วนใหญ่กว่า 80% มักเลือกที่จะไม่ใช้โอกาสนี้ในการถามคำถามเพิ่มเติม ซึ่งเป็นจุดที่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะการถามคำถามเพิ่มเติมเป็นการแสดงให้เห็นว่ามีความสนใจในการทำงานกับบริษัทนี้จริงๆ และอยากรู้จักบริษัทเพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจ ส่งผลสำคัญอย่างยิ่งต่อทัศนคติที่ผู้สัมภาษณ์มีต่อเรา การไม่ถามคำถามอะไรเลย ทำให้ดูไม่น่าสนใจในการสัมภาษณ์ ยิ่งไปกว่านั้น อาจจะทำให้ดูไม่ฉลาด และดูไม่มีความสนใจจริงๆที่จะร่วมงานกับบริษัท
แต่ก็หนึ่งคำถามนี้ก็อาจทำให้การสัมภาษณ์พังได้ ถ้าบังเอิญไป ‘ถามสิ่งที่ไม่ควรถาม’ หรือ ‘ถามสิ่งที่บริษัทได้พูดไปแล้ว’ดังนั้น คำถามที่จะถาม ควรเป็นคำถามที่คิดดีแล้ว ดูฉลาด และน่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่น เส้นทางความก้าวหน้า (Career Path) สำหรับตำแหน่งที่สมัครเป็นอย่างไร, ในการทำงานที่บริษัทให้ประสบความสำเร็จ ควรมี Hard Skills และ Soft Skills อะไรบ้าง, อะไรคืออุปสรรค หรือความท้าทายในการทำงานตำแหน่งนี้ เป็นต้น
ทาง PASONA ก็หวังว่าผู้สมัครและหางานทุกท่านจะได้รับข้อมูลดีๆที่สามารถนำไปต่อยอดเพื่อเตรียมความพร้อมเมื่อได้รับโอกาสเข้าสัมภาษณ์งานในบริษัทญี่ปุ่น และก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านสอบผ่าน ได้งานดีๆตามที่หวังไว้นะครับ J
………………………………………………………
สามารถติดตามข่าวสาร ตำแหน่งงานจากบริษัทญี่ปุ่นทั่วประเทศ และงานอบรมออนไลน์ได้ในเฟสบุ๊ค PASONA ที่นี่ได้เลย
FREE Registration : สามารถลงทะเบียนข้อมูลเบื้องต้นเพื่อหางานและฝากใบสมัครโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่
>>> https://pasona.co.th/registration-form/ <<<
………………………………………………………
หางานที่ใช่ ได้งานที่ชอบ ต่อยอดความฝัน ไปให้ถึงเป้าหมาย กับ PASONA
☎️ Contact: Career Consultant
Phone: 02-108-1250
Email: info@pasona.co.th
หางาน สมัครงาน หาคน หาคอร์สอบรม และ บริการต่างๆที่ช่วยพัฒนาองค์กร ได้ที่ PASONA
บทความที่เกี่ยวข้อง

“ความโปร่งใสของเงินเดือน”ปัจจัยที่มีผลต่อแรงบันดาลใจในการทำงาน
“การจ่ายค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกับงานที่ให้”—เงื่อนไขง่ายๆที่รู้กันอยู่แล้วในโลกของการทำงาน

“คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”อีกหนึ่งคำถามที่มักถูกถามในการสัมภาษณ์งาน
ในการเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน สิ่งสำคัญก็คือการเตรียมคำตอบสำหรับคำถามที่มักถูกถามในห้องสัมภาษณ์ คำถามหนึ่งที่เห็นได้บ่อยครั้งก็คือ “คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”

ตอบอย่างไรให้ดูดี กับคำถามสัมภาษณ์”เงินเดือนที่คุณคาดหวัง”
เพื่อหางานที่มีลักษณะและเงินเดือนที่เหมาะสมกับความต้องการ การต่อรองเงินเดือนมักไม่ได้เกิดขึ้นในขั้นตอนที่บริษัทตัดสินใจจ้างงาน มักเกิดขึ้นในหลายๆขั้นตอนก่อนหน้านั้น
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของเรา
Thailand Head Quarter
26th Floor, Sathorn Square
Office Tower,
98 North Sathorn Road, Silom,
Bangrak, Bangkok 10500, Thailand
TEL: +662-108-1250
E-mail: info@pasona.co.th
เตรียมตัวสัมภาษณ์อย่างไร ให้ได้งาน
การสมัครงานทุกวันนี้ มีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ด้วยความทันสมัย และเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้เราสามารถสมัครงานผ่านเว็บไซต์ได้ หรือส่งประวัติผ่านอีเมลล์ได้ แต่ขั้นตอนสำคัญที่สุดในการที่เราจะได้ร่วมงานกับบริษัทที่เราใฝ่ฝัน ก็คือ การสัมภาษณ์งาน ซึ่งเราจะได้มีโอกาสเข้ามาดูบรรยากาศการทำงาน สถานที่ทำงาน รวมถึงได้พบกับบุคคลากรของบริษัทนั้นๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่เราจะได้แสดงตัวตนของเรา และสร้างความประทับใจให้กับบริษัทได้โดยตรง
เพราะฉะนั้น การเตรียมความพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งาน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก นอกจากเรื่องบุคลิกภาพ การแต่งกายที่เราได้พูดถึงในบทความก่อนหน้านี้แล้ว (สามารถอ่านได้ที่บทความนี้ : https://pasona.co.th/b/1144)
การเตรียมพร้อมสำหรับคำถาม รวมถึงข้อมูลบริษัทก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน หรืออาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะเป็นวัดทัศนคติ และความเหมาะสมสำหรับตำแหน่งงานนั้นๆอย่างแท้จริง แน่นอนว่าเราไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์จะถามกับเราได้ แต่เราสามารถเตรียมตัวสำหรับแนวคำถามต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับตัวเองได้ ถ้าอย่างนั้นเรามาเตรียมความพร้อมกันดีกว่าค่ะว่าคำถามที่มักจะเจอในการสัมภาษณ์งานมีอะไรบ้าง ซึ่งแนวคำถามต่างๆที่พบเจอได้บ่อยครั้งในการสัมภาษณ์ จะขอยกตัวอย่างจากเว็บไซต์หางานชื่อดัง JobsDB.com
คำถาม : เล่าเรื่องคุณให้เราฟังหน่อย
แนวทางการตอบ : คำถามนี้แม้จะเหมือนกับทางบริษัทอยากรู้จักคุณเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่ควรเล่าเรื่องส่วนตัว เช่น คุณเป็นคนอย่างไร ชอบอะไรหรือมีงานอดิเรกอะไร ควรเน้นเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของคุณ เรียนจบอะไรมา มีประสบการณ์การทำงานอะไรมาบ้าง และเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเตรียมตัวเป็นผู้สมัครที่ดีที่สุดของงานนี้ โดยในแต่ละเรื่องที่คุณเล่าควรมีเหตุการณ์หรือมีการยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมประกอบด้วย
คำถาม : ทำไมเราควรจ้างคุณ
แนวทางการตอบ : คุณสามารถตอบได้ว่าคุณเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้โดยให้เหตุผลที่เหมาะสมเพิ่มเติม ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อจะตอบคำถามนี้ให้ได้ดีคือ รายละเอียดของตำแหน่งงานและบริษัทที่คุณสมัคร และสิ่งที่คุณจะสามารถให้กับองค์กรได้ ความรู้ความสามารถใดที่มีแต่อาจจะยังไม่เกี่ยวกับตำแหน่งนี้โดยตรงก็สามารถยกขึ้นมาพูดได้หากคุณเล็งเห็นว่ามันจะมีประโยชน์กับองค์กรได้ในอนาคต
คำถาม : ทำไมคุณจึงสนใจงานนี้/ ทำไมคุณจึงลาออกจากที่ทำงานเก่า
แนวทางการตอบ : สำหรับสองคำถามนี้ให้ตอบโดยเน้นไปที่ตัวงาน ไม่ใช่เงินเดือน สวัสดิการที่ดีกว่า เช่น สนใจงานนี้เพราะมีความท้าทายในตัวงานที่คุณคิดว่าคุณสามารถทำได้จากคุณสมบัติที่คุณมี โดยยกเหตุผลและตัวอย่างด้วย เช่นเดียวกับคำถามเรื่องการลาออกจากที่เก่าก็สามารถตอบได้ในทำนองเดียวกัน โดยควรหลีกเลี่ยงการพูดถึงปัญหาความสัมพันธ์กับเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานหรืออะไรก็ตามที่เป็นการพูดในแง่ไม่ดีถึงบริษัทเก่าของคุณ
คำถาม : ข้อด้อยของคุณคืออะไร
แนวทางการตอบ : หลายคนเลือกตอบคำถามนี้ด้วยการพยายามทำให้ข้อด้อยกลายเป็นข้อดีขึ้นมาเพราะไม่อยากพูดถึงข้อเสียของตัวเอง เช่น เป็นคนให้ความสำคัญกับงานมากจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น อาจจะดูเหมือนเป็นคำตอบที่ดีแต่ก็แฝงไปด้วยความหมายว่าคุณบริหารจัดการเวลาไม่ค่อยเป็น ในความเป็นจริงแล้วคุณสามารถพูดถึงข้อด้อยของตัวเองได้อย่างตรงไปตรงมาแต่ควรเป็นสิ่งที่คุณได้พยายามแก้ไขจนดีขึ้นแล้ว ยกตัวอย่างเช่น เคยเป็นคนบริหารจัดการเวลาไม่ค่อยเป็นทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้ชีวิตส่วนตัว ภายหลังจึงเลือกใช้วิธีจัดลำดับความสำคัญของงาน จัดทำ to do list หรือใช้ application มือถือช่วยจัดตารางการทำงานเป็นต้น
คำถาม : เป้าหมายระยะยาวของคุณคืออะไร
แนวทางการตอบ : บางครั้งอาจจะเป็นคำถามว่าคุณเห็นตัวเองเป็นอย่างไรใน 5 ปีต่อจากนี้ คุณสามารถตอบได้ตามความฝันของคุณ เช่นอยากนั่งตำแหน่งหัวหน้างานหรือผู้จัดการแผนก แต่ก็ควรพิจารณาเลือกเป้าหมายที่มีความเป็นไปได้ตามกรอบเวลานั้น และควรยกตัวอย่างประกอบด้วยว่าคุณวางแผนอย่างไรที่จะไปถึงเป้าหมาย คุณจะพัฒนาความสามารถอย่างไรให้เหมาะสมกับตำแหน่งนั้น ความท้าทายและอุปสรรคในการเดินไปถึงจุดหมายคืออะไรและคุณคิดว่าจะจัดการกับมันอย่างไร
จะเห็นได้ว่าการตอบคำถามในการสัมภาษณ์งานนั้นคุณไม่จำเป็นต้องคิดคำตอบให้สวยหรูดูดีเสมอไป การตอบตามความเป็นจริงนั้นดีที่สุด เพราะเป็นประสบการณ์ตรงในชีวิตที่ไม่ต้องอาศัยการท่องจำจนขาดความเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้การพูดถึงสิ่งใดก็ตามควรมีหลักฐานหรือตัวอย่างสนับสนุนคำพูดของคุณเสมอ การซ้อมตอบคำถามเหล่านี้หลายครั้งก่อนวันสัมภาษณ์จริงจะช่วยให้คุณสามารถเลือกคำตอบที่ดีที่สุดได้ค่ะ
คำถาม : คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง
แนวทางการตอบ : ทุกครั้งที่สมัครงาน เราจำเป็นที่จะต้องรู้และเข้าใจรายละเอียดที่สำคัญของบริษัทนั้นๆ เช่น ประวัติบริษัท ผลิตภัณฑ์ ภาพลักษณ์องค์กร กลุ่มลูกค้า หากมีสิ่งที่เรารู้สึกประทับใจเกี่ยวกับบริษัทนั้นๆ ก็สามารถแสดงความชื่นชมได้อย่างเหมาะสม เพื่อแสดงให้บริษัทที่เราไปสัมภาษณ์เห็นว่าคุณมีความพร้อม และต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทนั้นอย่างแท้จริง
สำหรับข้อแนะนำเพิ่มเติมในฐานะ Consultant ของบริษัทจัดหางาน Pasona คือเรื่องของการรักษามารยาทในการสมัครงาน ควรมีความสำรวม ให้เกียรติผู้สัมภาษณ์ สบตาอย่างจริงใจ ไม่หลบสายตา แต่ไม่จ้องตาจนเกินงาม เป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส กระตือรือร้น เป็นผู้พูด และผู้ฟังที่ดี มีความมั่นใจในตัวเอง แต่ก็ยังคงความนอบน้อม หรือสรุปง่ายๆก็คือ เราควรเป็นตัวของตัวเองในแบบที่ดีที่สุดค่ะ
นอกจากนี้ หลังจากที่คุณได้เตรียมตัวในการสัมภาษณ์งานมาอย่างดีแล้ว แต่ดันมาเจอคำถามที่ไม่คาดคิดว่าจะถูกผู้สัมภาษณ์ถาม ก็เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน งั้นลองมาเตรียมพร้อมสำหรับคำถามแปลกๆกันบ้าง เพื่อเตรียมความพร้อมให้เรารู้สึกมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
ขอยกตัวอย่างคำถามแปลกๆ จากเว็บไซต์ JobThai.com/REACH ดังต่อไปนี้ค่ะ
ทำไมฝาท่อระบายน้ำต้องเป็นรูปวงกลม ?
ทั้งคำถาม “ทำไมฝาท่อระบายน้ำต้องเป็นวงกลม” และคำถามว่า “คุณจะเคลื่อนย้ายภูเขาไฟฟูจิได้อย่างไร” ต่างก็เคยปรากฏในเนื้อหาของหนังสือที่มีชื่อว่า “How Would You Move Mount Fuji? Microsoft’s Cult of the Puzzle: How the World’s Smartest Company Selects the Most Creative Thinkers” ซึ่งแค่ชื่อหนังสือก็พอจะบอกได้ว่าองค์กรไอทีระดับโลกอย่าง Microsoft นั้นมีกระบวนการสัมภาษณ์งานที่โหดหินเพียงใด เพราะพวกเขามักจะสอดแทรกคำถามเชิงตรรกศาสตร์และคำถามเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาลงไปในรายการคำถามสำหรับคัดเลือกผู้สมัครงานด้วย
เมื่อเจอคำถามแบบนี้ คุณต้องอธิบายเหตุผลให้ได้ว่าทำไมถึงคุณถึงตอบแบบนั้น เช่น การตอบคำถาม ว่า “ทำไมฝาท่อระบายน้ำต้องเป็นรูปวงกลม” อาจจะอธิบายว่าฝาที่เป็นวงกลมจะทำให้กรอบของท่อนั้นแข็งแรงเพราะมีการกระจายน้ำหนักเท่ากันโดยรอบ ซึ่งต่างจากฝารูปร่างอื่น ๆ เช่น รูปสี่เหลี่ยม หรือฝาท่อแบบวงกลมไม่มีทางที่จะหล่นลงไปในท่อได้ ซึ่งฝาท่อรูปทรงสี่เหลี่ยมมีโอกาสจะตกลงไปได้หากถ้าฝาท่อสี่เหลี่ยมถูกพลิกด้านข้าง หรือคำตอบอะไรก็ได้ที่แสดงว่าคุณคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล เชื่อมโยงและสนับสนุนกับคำตอบของคุณ
ถ้าคุณเป็นก้อนอิฐในกำแพง คุณอยากจะเป็นก้อนอิฐก้อนไหน และทำไม?
คำถามที่ว่า “ถ้าคุณเป็นก้อนอิฐในกำแพง คุณอยากจะเป็นก้อนอิฐก้อนไหนและทำไม” หรือคำถามว่า “หากคุณเลือกเป็นสัตว์ได้หนึ่งชนิด คุณอยากเป็นอะไรและทำไม” คำถามเหล่านี้มีไว้เพื่อให้คุณได้แสดงบุคลิกภาพของคุณ คำตอบของคุณจะบ่งบอกนิสัยและคุณสมบัติบางอย่าง
เมื่อคุณเจอคำถามประเภทนี้คุณต้องคิดให้รวดเร็วและรอบคอบ จากนั้นจึงตอบคำถามโดยอาศัยสิ่งที่คุณมีอยู่หรือสิ่งที่คุณได้ทำการบ้านล่วงหน้ามาก่อน เช่น ถ้าคุณเตรียมตัวตอบคำถามประเภทข้อดี–ข้อเสียของตัวคุณ คุณสามารถนำการตอบแบบนั้นมาผสมผสานกับการตอบคำถามประเภทนี้ได้ ถ้าจะตอบคำถามว่า “อยากเป็นอิฐก้อนไหน” คุณอาจจะตอบว่า “ฉันอยากจะเป็นอิฐก้อนแรกที่อยู่ที่ฐานล่างสุดของกำแพง เพราะฉันเป็นคนที่หนักแน่น คนอื่นไว้วางใจได้ ถ้าใครได้ทำงานด้วยก็มั่นใจได้เลยว่าฉันจะไม่ทำให้ผิดหวัง ฉันจะคอยเป็นฐานที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุนคนอื่น ๆ ในทีมเอง”
อย่าลืมว่าท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าคำถามจะแปลกแค่ไหน คิด พิจารณาทุกอย่างให้ดีก่อนตอบคำถามนั้นออกไป เพราะทุกคำถามก็เป็นไปเพื่อการทดสอบความเหมาะสมของคุณกับตำแหน่งงานนั้น ๆ อยู่ดี
นอกจากนี้ทาง Pasona ยังมีคำถามสัมภาษณ์งานโดยรวบรวมจาก Consultant ชาวญี่ปุ่นมาฝากให้กับผู้สมัครงานที่สนใจสมัครงานกับบริษัทญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ หากคุณกำลังสนใจ หรือกำลังได้สัมภาษณ์กับบริษัทญี่ปุ่น เราขอแนะนำให้ลองฝึกตอบคำถามดังต่อไปนี้ค่ะ
- แนะนำตัวเองอะไรก็ได้ ภายในหนึ่ง หรือ สองนาที
- ทำไมถึงอยากร่วมงานกับเรา
- คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง
- จงบอกข้อดี ข้อเสียของคุณ
เทคนิค คือ ควรตอบข้อเสียที่มาพร้อมกับแผนการว่าจะพัฒนา หรือแก้ไขข้อเสียได้อย่างไร
- กิจกรรมที่เข้าร่วมในขณะเรียนมหาลัย หรือประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา เช่น จิตอาสา กีฬา หรือทำPart Time เพื่อดูประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร ว่าผู้สมัครมีความเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นๆหรือไม่
- เนื้อหาข่าวที่ผู้สมัครสนใจ เช่น ข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สำหรับตำแหน่งงานทั่วไป ว่าเป็นคนสนใจเหตุการณ์ รอบรู้หรือไม่ ผู้สมัครควรมีความรู้เกี่ยวกับข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สังคม อย่างใดอย่างหนึ่ง
- ระยะเวลาในการทำงาน เทคนิคการตอบคือ ควรมีความตั้งใจที่จะทำงานกับทางบริษัทมากกว่าห้าปี
- ในการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้าย บริษัทอาจจะถามว่า บริษัทของเราเป็นที่ที่คุณให้ความสำคัญ หรืออยากร่วมงานเป็นอันดับแรกหรือไม่ ผู้สมัครไม่ควรตอบไปว่าสัมภาษณ์หลายที่ ควรมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมงานกับทางบริษัทจริงๆ
- มีคำถามอะไรอยากจะถามเรารึเปล่า เป็นคำถามเพื่อวัดว่าสนใจบริษัทเรา หรืองานนั้นจริงๆหรือไม่
จะเห็นได้ว่าคำถามที่สัมภาษณ์ในไทย กับญี่ปุ่นจะค่อนข้างคล้ายกัน มีจุดแตกต่างเพียงกันเล็กน้อย คือ เรื่องของความสนใจเกี่ยวกับข่าวสารบ้านเมือง เพื่อดูว่าเป็นคนสนใจสิ่งรอบตัว หรือพอมีความรู้รอบตัวบ้างหรือไม่ และเรื่องของระยะเวลาการทำงานที่ทางญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับความจงรักภักดีในองค์กร โดยคาดหวังให้พนักงานทำงานกับบริษัทไปนานๆ
แต่จะให้ฝึกตอบคำถามทั่วไปแบบนี้ ก็อาจจะธรรมดาไปหน่อย ทาง Pasona จึงได้นำแนวคำถามแปลกๆในการสัมภาษณ์งานจากทางญี่ปุ่นบางส่วนมาให้ผู้สมัครงานฝึกตอบคำถามกันด้วยค่ะ
- ให้พรีเซ็นท์ หรือหาวิธีเพื่อเปลี่ยนทัศนคติของผู้สัมภาษณ์ เช่น เป็นคนไม่ชอบเขียนจดหมาย ทำอย่างไรให้ชอบเขียนจดหมาย หรือ ไม่ชอบดูหนัง จะนำเสนอยังไงให้ชอบดูหนัง
- มีรูปมาให้ เป็นวัสดุหนึ่งชิ้น แล้วถามว่า สิ่งนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง ให้บอกมา 10 ข้อ (คำถามในการสมัครบริษัทให้คำปรึกษา เป็นแบบ brainstorm เพื่อดูทักษะความคิดสร้างสรรค์ และการคิดเชิงตรรกะ
- ให้ผู้สมัครงานเป็นผู้สัมภาษณ์คนของบริษัท หลังจากเป็นผู้ถูกสัมภาษณ์ ให้สลับบทบาทกัน เพื่อดูว่าผู้สมัครงานเตรียมความพร้อมมามากแค่ไหน
และอีกหนึ่งคำถามที่น่าสนใจในด้านกระบวนการคิดคำนวณ จากบริษัท Consulting ที่จะขอยกตัวอย่างมาจากเว็บไซต์ JobThai.com/REACH ค่ะ
- ในประเทศญี่ปุ่นมีร้านทำผมสตรีกี่ร้าน
คนสัมภาษณ์ต้องการเปิดโอกาสให้คุณได้แสดงทักษะและกระบวนการคิดของคุณ เมื่อคุณถูกถามแบบนี้ คุณต้องเรียบเรียงความคิดของคุณออกมาเป็นคำพูดให้ดี คุณอาจจะเริ่มด้วยการวิเคราะห์ เช่น เราต้องรู้จำนวนประชากรของประเทศญี่ปุ่นก่อน และเราต้องค้นหาว่าคนญี่ปุ่นทำผมคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของคนทั้งประเทศและพวกเขาทำผมบ่อยแค่ไหน
ซึ่งบ่อยครั้งที่ผู้สมัครมักจะตอบคำถามที่เหนือความคาดหมายไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้เตรียมความพร้อมสำหรับคำถามเหล่านี้มา เราจึงควรฝึกตอบคำถามที่มีความแปลก และไม่คาดคิดว่าจะถูกถามไว้ด้วย โดยเริ่มฝึกจากคำถามที่ทาง Pasona ได้ยกตัวอย่างมา และจากเว็บไซต์ต่างๆเพิ่มเติมได้ค่ะ เพื่อที่ว่าเราจะได้มีสกิลในการตอบคำถามเพิ่มขึ้น และไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป
เมื่อเรารู้แนวทางการสัมภาษณ์งานแล้ว ก็อย่าชะล่าใจเชียวค่ะ รีบมาฝึกตอบคำถามเพื่อเตรียมความพร้อมในการสัมภาษณ์งานกันดีกว่า เพราะถ้าเราหมั่นฝึกฝนตัวเองจนมีความพร้อมแล้ว รบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง เช่นเดียวกันกับการสมัครงานค่ะ ถ้าเราหมั่นฝึกตอบคำถามควบคู่ไปกับการฝึกฝนทักษะต่างๆอย่างสม่ำเสมอ สมัครงานกี่ครั้งก็ผ่านทุกครั้งแน่นอนค่ะ ทาง Pasona ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่กำลังจะได้สัมภาษณ์งานได้งานที่ตรงกับใจต้องการกันนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง

“ความโปร่งใสของเงินเดือน”ปัจจัยที่มีผลต่อแรงบันดาลใจในการทำงาน
“การจ่ายค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกับงานที่ให้”—เงื่อนไขง่ายๆที่รู้กันอยู่แล้วในโลกของการทำงาน

“คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”อีกหนึ่งคำถามที่มักถูกถามในการสัมภาษณ์งาน
ในการเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน สิ่งสำคัญก็คือการเตรียมคำตอบสำหรับคำถามที่มักถูกถามในห้องสัมภาษณ์ คำถามหนึ่งที่เห็นได้บ่อยครั้งก็คือ “คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”

ตอบอย่างไรให้ดูดี กับคำถามสัมภาษณ์”เงินเดือนที่คุณคาดหวัง”
เพื่อหางานที่มีลักษณะและเงินเดือนที่เหมาะสมกับความต้องการ การต่อรองเงินเดือนมักไม่ได้เกิดขึ้นในขั้นตอนที่บริษัทตัดสินใจจ้างงาน มักเกิดขึ้นในหลายๆขั้นตอนก่อนหน้านั้น
เรียนรู้เพิ่มเติม
เกี่ยวกับบริการของเรา