
[เทคนิคเอาชนะความตื่นเต้นและความกังวลก่อนสัมภาษณ์งาน]
เป็นเรื่องธรรมดาโดยเฉพาะนักศึกษาจบใหม่ที่วันสัมภาษณ์งานจะรู้สึกตื่นเต้นและกังวลมากกว่าปกติ การรู้จักวิธีรับมือกับความวิตกกังวลและความตื่นเต้นจะทำให้เกิดความประทับใจกับผู้รับสมัครงานและได้รับเลือกให้เป็นผู้สมัครที่ผ่านคุณสมบัติได้อย่างไม่ยากเย็น
เตรียมตัวอย่างไรก่อนถึงวันสัมภาษณ์?
การเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆจะทำให้คุณไม่รู้สึกรนและสบายใจมากยิ่งขึ้น การเตรียมตัวนอกจากจะช่วยลดความกังวลได้แล้วยังช่วยให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้นอีกด้วย
>>> คำแนะนำพื้นฐานและจำเป็นที่สุดสำหรับการเตรียมตัวก่อนถึงวันสัมภาษณ์ <<<
คาดคะเนเวลาที่ใช้ในการเดินทาง : ก่อนถึงวันสัมภาษณ์ ประเมินเวลาที่ใช้ในการเดินทางไปยังสถานที่สัมภาษณ์ให้ดี พิจารณาถึงเวลาในการขับรถ เผื่อเวลารถติดและหาที่จอดให้เหมาะสม หากเป็นไปได้เผื่อเวลาเอาไว้ให้ไปถึงก่อนสถานที่สัมภาษณ์ 20-30 นาที
วางแผนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่จะใช้ในวันสัมภาษณ์ล่วงหน้า : เตรียมการไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ พิจารณาความเหมาะสมว่าทางบริษัทเคร่งครัดในส่วนใดเป็นพิเศษ การเตรียมไว้ล่วงหน้าจะช่วยลดระยะเวลาในการเลือกที่อาจเกิดขึ้นจากความลังเลในเช้าวันสัมภาษณ์ได้
เตรียมคำถามที่อยากสอบถามล่วงหน้าได้ : ในตอนท้ายของการสัมภาษณ์ ผู้สัมภาษณ์มักเปิดโอกาสให้คุณได้สอบถามคำถามที่คุณอาจจะสนใจในตัวบริษัทเสมอ การแสดงออกถึงความสนใจผ่านตัวคำถามที่ถาม จะทำให้คุณได้คะแนนเพิ่มได้อย่างไม่น่าเชื่อ คำถามที่แนะนำเช่น คุณสมบัติอะไรที่บริษัทกำลังตามหาในผู้สมัครตำแหน่งงานนี้ หรือ งานตำแหน่งนี้มีความน่าสนใจอะไรบ้าง เป็นต้น
อ่านเนื้อหาคำอธิบายงานให้ครบถ้วน : การทำความเข้าใจเนื้อหางานและรายละเอียดของตำแหน่งที่เราสนใจ จะทำให้เราทราบว่ามีคุณสมบัติอะไรบ้างที่บริษัทต้องการในคนตำแหน่งนี้และคุณสมบัติเหล่านั้นมีอยู่ในตัวของคุณมากน้อยขนาดไหน พยายามมองหาคีย์เวิร์ดที่เป็นจุดเด่นคุณสมบัติหลักของตำแหน่งงานนี้เช่น ทักษะที่สำคัญ หรือ ประสบการณ์ที่ควรมี รวมทั้งสามารถอธิบายยกตัวอย่างให้ผู้สัมภาษณ์เห็นภาพได้อย่างชัดเจน
>>> 15 วิธีลดความกังวลก่อนไปสัมภาษณ์งาน <<<
ในการสัมภาษณ์นอกจากความประทับใจและการแสดงให้เห็นถึงทักษะที่คุณมีให้กับผู้สัมภาษณ์แล้ว ความมั่นใจและการแสดงออกถึงความเป็นมืออาขีพเป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องมี ดังนั้นคุณจะต้องควบคุมความวิตกกังวลรวมทั้งความตื่นเต้นให้ได้ โดยมีหลากหลายวิธีด้วยกันที่เราอยากแนะนำให้คุณลองทำดู
- นั่งสมาธิ
ก่อนที่จะออกเดินทางไปสัมภาษณ์งาน ใช้เวลานั่งสมาธิซัก 3-5 นาที จะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและช่วยให้สมองมีการจัดเรียงความคิดได้ดีขึ้น
- ทานอาหารมื้อหลักก่อนช่วงเวลาสัมภาษณ์ (มื้อเช้า/มื้อเที่ยง)
ในวันที่สัมภาษณ์ การรับประทานมื้อหลักก่อนไปสัมภาษณ์ถือมีส่วนสำคัญที่ทำให้สมองทำงานได้อย่างปกติ การทานมื้อหลักจะช่วยให้ร่างกายมีพลังงาน และสามารถใช้ความคิดในการโต้ตอบเวลาสัมภาษณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ทานขนมรองท้องก่อนเข้าสัมภาษณ์ล่วงหน้า 10-20 นาที
หากไม่สามารถทานมื้อหลักก่อนช่วงเวลาสัมภาษณ์ได้จริงๆ การทานขนมรองท้องที่มีประโยชน์ก็สามารถทดแทนมื้อใหญ่ๆได้ ยกตัวอย่างเช่น ถั่วหรือกล้วย เพราะจะมีสารทริปโตแฟน โปแทสเซียม และสารที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
- ยืดเส้นยืดสาย
ไม่เพียงแต่การออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายจะเป็นการกระตุ้นสารอะดรีนาลินที่ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าแล้ว จะช่วยในการลดความตึงเครียดได้อีกด้วย หากการสัมภาษณ์มีในช่วงบ่ายหรือเย็น คุณสามารถเดินจ๊อกกิ้งเบาๆ เข้าคลาสโยคะหรือเข้ายิมเพื่อให้ร่างกายตื่นตัวมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ควรหนักจนเกินไปเพราะอาจทำให้ง่วงได้ในช่วงบ่าย
- สรุปความสำเร็จออกมาให้เห็นเป็นภาพที่ชัดเจน
การปรับความคิดของตัวเองให้เป็นแง่บวกจะทำให้การโต้ตอบระหว่างการสัมภาษณ์แตกต่างอย่างชัดเจน ก่อนช่วงเวลาสัมภาษณ์การปรับความคิดของตัวเองให้เป็นในแง่ดี ไม่คิดด้านลบกับตัวเอง จะช่วยให้การตอบคำถามเป็นไปด้วยความมั่นใจ หนักแน่น และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้สัมภาษณ์ได้ นอกจากนี้การนึกถึงและสรุปความสำเร็จที่เคยทำไว้ออกมา จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในตัวเองได้เป็นอย่างมาก
- พูดให้กำลังใจตัวเอง
เพิ่มเติมจากการสรุปความสำเร็จออกมาเป็นภาพ การพูดให้กำลังใจตัวเอง พูดในสิ่งที่ตัวเองอยากฟัง เช่น บอกกับตัวเองว่า ต้องทำได้ เก่งอยู่แล้ว คุณสมบัติครบ ไม่มีใครจะปฏิเสธได้ ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องกดดัน เป็นต้น
หากอยู่ในสถานที่ปิด สามารถพูดออกมาด้วยเสียงที่ดังได้ เพื่อให้รู้สึกฮึกเหิมและมั่นใจในความสามารถของตัวเองในตำแหน่งงานที่สนใจสมัครได้
- วางท่าทางที่แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจ
เพราะความคิดมีผลต่ออารมณ์และร่างกายก่อนสัมภาษณ์ ก่อนสัมภาษณ์งาน ควรจัดวางท่าทางของตัวเองให้อยู่ในลักษณะที่แสดงถึงความมั่นใจและมีพลัง ยกตัวอย่างเช่น ยืนหลังตรง อกผาย ไหล่ไม่ห่อ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นการเสริมความมั่นใจและลดความวิตกกังวลได้ในระยะเวลาสั้นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- จดรายละเอียดที่จำเป็นในการสัมภาษณ์
จดบันทึกรายละเอียดที่จำเป็นลงในสมุดจดหรือโทรศัพท์มือถือเช่น ชื่อบริษัท, ที่อยู่บริษัท, ชื่อผู้สัมภาษณ์ และตารางเวลาสัมภาษณ์ รวมทั้งประเด็นหลักที่คุณต้องการพูดถึงเป็นหลักระหว่างการสัมภาษณ์งานอย่างน้อย 3 อย่าง และคำถามที่คุณต้องการถามกลับผู้สัมภาษณ์ในช่วงท้ายที่มักเปิดโอกาสให้ถามได้ ก่อนถึงเวลาที่จะไปสัมภาษณ์ สามารถอ่านทวนเพื่อย้ำสิ่งที่จำเป็นและรู้สึกสงบ ลดความตื่นเต้นได้
- ยิ้มเสมอ
ก่อนเดินก้าวเข้าไปในช่วงเวลาสัมภาษณ์ พยายามบังคับตัวเองให้ยิ้มอยู่เสมอ เพราะการบังคับตัวเองให้ยิ้มจะเป็นเทคนิคที่ทำให้สมองเรียนรู้ว่ากำลังมีความสุขและร่าเริงอยู่ ทำให้เกิดผลกระทบด้านอารณ์เชิงบวกที่ทำให้สามารถสื่อสารเรื่องดีๆในช่วงสัมภาษณ์ได้
- ฝึกฝนการสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง
ใช้เวลาให้เต็มที่ในการคิดคำตอบของแต่ละคำถามที่อาจถูกถามระหว่างการสัมภาษณ์ได้ ยิ่งฝึกซ้อมมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะเป็นการเพิ่มความมั่นใจและลดความวิตกกังวลได้ในวันสัมภาษณ์จริง
ลองขอความร่วมมือจากเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวในการช่วยคิดคำถามที่ผู้สัมภาษณ์อาจถามรวมทั้งขอคำแนะนำในคำตอบที่คุณได้ตอบไปว่าควรปรับปรุงในส่วนใดบ้าง
- ฟังเพลงหรือ Podcast
ลองฟังเพลงหรือฟัง Podcast ที่ช่วยให้คุณรู้สึกมีกำลังใจและความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้การฟังเรื่องดีๆก็จะทำให้อารมณ์ดีตามไปด้วย ซึ่งการเป็นคนอารมณ์ดีนี้ที่จะช่วยให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้สัมภาษณ์และผู้จัดการฝ่ายจัดจ้างได้อีกด้วย
- พูดคุยกับเพื่อนหรือครอบครัวเพื่อขอกำลังใจ
นอกจากเพื่อนและครอบครัวจะช่วยในการซ้อมสัมภาษณ์ได้ด้วยแล้ว ยังเป็นแรงใจสำหรับที่คอยให้กำลังใจก่อนไปสัมภาษณ์ได้ แต่การเลือกเพื่อนและสมาชิกในครอบครัวที่สามารถให้กำลังใจคุณได้ ควรเลือกคนที่ใส่ใจคุณและพร้อมผลักดันคุณสู่ความสำเร็จ เพราะหากเลือกคนที่ไม่ถนัดในการให้กำลังใจคน อาจจะเกิดผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามกันก็เป็นได้
- เตรียมตัวและเตรียมใจยอมรับผลของการสัมภาษณ์
ถึงแม้การสัมภาษณ์จะดูดีและดูราบรื่นเพียงใดก็ตาม การเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมรับกับทุกๆผลลัพธ์ก็เป็นสิ่งสำคัญ
คอยเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร มันไม่ใช่วันสุดท้ายของโลก ถ้าหากการสัมภาษณ์รอบนี้ไม่ผ่าน แต่การสัมภาษณ์สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัน มีความเป็นไปได้ว่าผู้สัมภาษณ์เองก็มีความวิตกกังวลเช่นกัน
แม้อาจจะไม่ได้งานนี้แต่ยังมีตำแหน่งงานและโอกาสอีกมากมายที่เปิดรับคนอยู่ อย่างน้อยหากสอบสัมภาษณ์ครั้งนี้ไม่ผ่าน รอบหน้าคุณก็จะมีประสบการณ์และสามารถนำไปปรับปรุงในครั้งต่อๆไปได้
- หายใจเข้าลึกๆ
เมื่อคุณรู้สึกกระวนกระวายหรือเครียด อัตราการเต้นของหัวใจก็จะสูงขึ้น ลองใช้เทคนิคการหายใจเข้าลึกๆจะช่วยลดอัตราการเต้นให้ช้าลงได้
คิดให้น้อยลง หายใจให้ช้าลง จะช่วยให้ใจสงบลง และลดความตื่นเต้นได้
- หาเหตุแห่งความกังวล และกำจัดมันออกไป
มุมมองและการรับรู้ต่อสถานการณ์มีผลต่อความรู้สึกต่อสิ่งที่เกิดขึ้น พยายามระบุและหาสาเหตุที่ทำให้เกิดความคิดแง่ลบต่อการสัมภาษณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น เช่นความกังวลว่าคุณไม่มีคุณสมบัติดีพอจะทำงานในตำแหน่งที่คุณสนใจ
เมื่อคุณสามารถหาสาเหตุของความคิดแง่ลบได้แล้ว ให้ระลึกเสมอว่า คุณถูกเรียกไปสัมภาษณ์เพราะผู้สัมภาษณ์รวมทั้งผู้จัดการฝ่ายจัดจ้างสนใจในตัวคุณ คงไม่มีใครที่จะเรียกสัมภาษณ์คนที่เค้าไม่ได้สนใจตั้งแต่แรกหรอก จริงมั้ยหละ?
ท่านใดที่กำลังหางานที่สามารถแสดงศักยภาพของตัวเองให้ได้มากที่สุดในบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย ทาง PASONA ก็ยินดีเป็นอีกกำลังสำคัญในการสนับสนุนช่วยให้ท่านหางานที่ใช่ได้โดยเร็วนะครับ
………………………………………………………
สามารถติดตามข่าวสาร ตำแหน่งงานจากบริษัทญี่ปุ่นทั่วประเทศ และงานอบรมออนไลน์ได้ในเฟสบุ๊ค PASONA ที่นี่ได้เลย
FREE Registration : สามารถลงทะเบียนข้อมูลเบื้องต้นเพื่อหางานและฝากใบสมัครโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่
>>> https://pasona.co.th/registration-form/ <<<
………………………………………………………
หางานที่ใช่ ได้งานที่ชอบ ต่อยอดความฝัน ไปให้ถึงเป้าหมาย กับ PASONA
☎️ Contact: Career Consultant
Phone: 02-108-1250
Email: info@pasona.co.th
หางาน หาคน หาคอร์สอบรม และ บริการต่างๆที่ช่วยพัฒนาองค์กร ได้ที่ PASONA
#หางาน #สมัครงาน #หางานกทม. #หางานทำ #หางานบริษัทญี่ปุ่น #ฝากประวัติ #ค้นหางาน #PASONA
บทความที่เกี่ยวข้อง

“ความโปร่งใสของเงินเดือน”ปัจจัยที่มีผลต่อแรงบันดาลใจในการทำงาน
“การจ่ายค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกับงานที่ให้”—เงื่อนไขง่ายๆที่รู้กันอยู่แล้วในโลกของการทำงาน

“คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”อีกหนึ่งคำถามที่มักถูกถามในการสัมภาษณ์งาน
ในการเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน สิ่งสำคัญก็คือการเตรียมคำตอบสำหรับคำถามที่มักถูกถามในห้องสัมภาษณ์ คำถามหนึ่งที่เห็นได้บ่อยครั้งก็คือ “คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”

ตอบอย่างไรให้ดูดี กับคำถามสัมภาษณ์”เงินเดือนที่คุณคาดหวัง”
เพื่อหางานที่มีลักษณะและเงินเดือนที่เหมาะสมกับความต้องการ การต่อรองเงินเดือนมักไม่ได้เกิดขึ้นในขั้นตอนที่บริษัทตัดสินใจจ้างงาน มักเกิดขึ้นในหลายๆขั้นตอนก่อนหน้านั้น
สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของเรา
Thailand Head Quarter
26th Floor, Sathorn Square
Office Tower,
98 North Sathorn Road, Silom,
Bangrak, Bangkok 10500, Thailand
TEL: +662-108-1250
E-mail: info@pasona.co.th
เตรียมตัวสัมภาษณ์อย่างไร ให้ได้งาน
การสมัครงานทุกวันนี้ มีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ด้วยความทันสมัย และเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้เราสามารถสมัครงานผ่านเว็บไซต์ได้ หรือส่งประวัติผ่านอีเมลล์ได้ แต่ขั้นตอนสำคัญที่สุดในการที่เราจะได้ร่วมงานกับบริษัทที่เราใฝ่ฝัน ก็คือ การสัมภาษณ์งาน ซึ่งเราจะได้มีโอกาสเข้ามาดูบรรยากาศการทำงาน สถานที่ทำงาน รวมถึงได้พบกับบุคคลากรของบริษัทนั้นๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่เราจะได้แสดงตัวตนของเรา และสร้างความประทับใจให้กับบริษัทได้โดยตรง
เพราะฉะนั้น การเตรียมความพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งาน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก นอกจากเรื่องบุคลิกภาพ การแต่งกายที่เราได้พูดถึงในบทความก่อนหน้านี้แล้ว (สามารถอ่านได้ที่บทความนี้ : https://pasona.co.th/b/1144)
การเตรียมพร้อมสำหรับคำถาม รวมถึงข้อมูลบริษัทก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน หรืออาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะเป็นวัดทัศนคติ และความเหมาะสมสำหรับตำแหน่งงานนั้นๆอย่างแท้จริง แน่นอนว่าเราไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์จะถามกับเราได้ แต่เราสามารถเตรียมตัวสำหรับแนวคำถามต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับตัวเองได้ ถ้าอย่างนั้นเรามาเตรียมความพร้อมกันดีกว่าค่ะว่าคำถามที่มักจะเจอในการสัมภาษณ์งานมีอะไรบ้าง ซึ่งแนวคำถามต่างๆที่พบเจอได้บ่อยครั้งในการสัมภาษณ์ จะขอยกตัวอย่างจากเว็บไซต์หางานชื่อดัง JobsDB.com
คำถาม : เล่าเรื่องคุณให้เราฟังหน่อย
แนวทางการตอบ : คำถามนี้แม้จะเหมือนกับทางบริษัทอยากรู้จักคุณเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่ควรเล่าเรื่องส่วนตัว เช่น คุณเป็นคนอย่างไร ชอบอะไรหรือมีงานอดิเรกอะไร ควรเน้นเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของคุณ เรียนจบอะไรมา มีประสบการณ์การทำงานอะไรมาบ้าง และเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเตรียมตัวเป็นผู้สมัครที่ดีที่สุดของงานนี้ โดยในแต่ละเรื่องที่คุณเล่าควรมีเหตุการณ์หรือมีการยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมประกอบด้วย
คำถาม : ทำไมเราควรจ้างคุณ
แนวทางการตอบ : คุณสามารถตอบได้ว่าคุณเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้โดยให้เหตุผลที่เหมาะสมเพิ่มเติม ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อจะตอบคำถามนี้ให้ได้ดีคือ รายละเอียดของตำแหน่งงานและบริษัทที่คุณสมัคร และสิ่งที่คุณจะสามารถให้กับองค์กรได้ ความรู้ความสามารถใดที่มีแต่อาจจะยังไม่เกี่ยวกับตำแหน่งนี้โดยตรงก็สามารถยกขึ้นมาพูดได้หากคุณเล็งเห็นว่ามันจะมีประโยชน์กับองค์กรได้ในอนาคต
คำถาม : ทำไมคุณจึงสนใจงานนี้/ ทำไมคุณจึงลาออกจากที่ทำงานเก่า
แนวทางการตอบ : สำหรับสองคำถามนี้ให้ตอบโดยเน้นไปที่ตัวงาน ไม่ใช่เงินเดือน สวัสดิการที่ดีกว่า เช่น สนใจงานนี้เพราะมีความท้าทายในตัวงานที่คุณคิดว่าคุณสามารถทำได้จากคุณสมบัติที่คุณมี โดยยกเหตุผลและตัวอย่างด้วย เช่นเดียวกับคำถามเรื่องการลาออกจากที่เก่าก็สามารถตอบได้ในทำนองเดียวกัน โดยควรหลีกเลี่ยงการพูดถึงปัญหาความสัมพันธ์กับเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานหรืออะไรก็ตามที่เป็นการพูดในแง่ไม่ดีถึงบริษัทเก่าของคุณ
คำถาม : ข้อด้อยของคุณคืออะไร
แนวทางการตอบ : หลายคนเลือกตอบคำถามนี้ด้วยการพยายามทำให้ข้อด้อยกลายเป็นข้อดีขึ้นมาเพราะไม่อยากพูดถึงข้อเสียของตัวเอง เช่น เป็นคนให้ความสำคัญกับงานมากจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น อาจจะดูเหมือนเป็นคำตอบที่ดีแต่ก็แฝงไปด้วยความหมายว่าคุณบริหารจัดการเวลาไม่ค่อยเป็น ในความเป็นจริงแล้วคุณสามารถพูดถึงข้อด้อยของตัวเองได้อย่างตรงไปตรงมาแต่ควรเป็นสิ่งที่คุณได้พยายามแก้ไขจนดีขึ้นแล้ว ยกตัวอย่างเช่น เคยเป็นคนบริหารจัดการเวลาไม่ค่อยเป็นทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้ชีวิตส่วนตัว ภายหลังจึงเลือกใช้วิธีจัดลำดับความสำคัญของงาน จัดทำ to do list หรือใช้ application มือถือช่วยจัดตารางการทำงานเป็นต้น
คำถาม : เป้าหมายระยะยาวของคุณคืออะไร
แนวทางการตอบ : บางครั้งอาจจะเป็นคำถามว่าคุณเห็นตัวเองเป็นอย่างไรใน 5 ปีต่อจากนี้ คุณสามารถตอบได้ตามความฝันของคุณ เช่นอยากนั่งตำแหน่งหัวหน้างานหรือผู้จัดการแผนก แต่ก็ควรพิจารณาเลือกเป้าหมายที่มีความเป็นไปได้ตามกรอบเวลานั้น และควรยกตัวอย่างประกอบด้วยว่าคุณวางแผนอย่างไรที่จะไปถึงเป้าหมาย คุณจะพัฒนาความสามารถอย่างไรให้เหมาะสมกับตำแหน่งนั้น ความท้าทายและอุปสรรคในการเดินไปถึงจุดหมายคืออะไรและคุณคิดว่าจะจัดการกับมันอย่างไร
จะเห็นได้ว่าการตอบคำถามในการสัมภาษณ์งานนั้นคุณไม่จำเป็นต้องคิดคำตอบให้สวยหรูดูดีเสมอไป การตอบตามความเป็นจริงนั้นดีที่สุด เพราะเป็นประสบการณ์ตรงในชีวิตที่ไม่ต้องอาศัยการท่องจำจนขาดความเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้การพูดถึงสิ่งใดก็ตามควรมีหลักฐานหรือตัวอย่างสนับสนุนคำพูดของคุณเสมอ การซ้อมตอบคำถามเหล่านี้หลายครั้งก่อนวันสัมภาษณ์จริงจะช่วยให้คุณสามารถเลือกคำตอบที่ดีที่สุดได้ค่ะ
คำถาม : คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง
แนวทางการตอบ : ทุกครั้งที่สมัครงาน เราจำเป็นที่จะต้องรู้และเข้าใจรายละเอียดที่สำคัญของบริษัทนั้นๆ เช่น ประวัติบริษัท ผลิตภัณฑ์ ภาพลักษณ์องค์กร กลุ่มลูกค้า หากมีสิ่งที่เรารู้สึกประทับใจเกี่ยวกับบริษัทนั้นๆ ก็สามารถแสดงความชื่นชมได้อย่างเหมาะสม เพื่อแสดงให้บริษัทที่เราไปสัมภาษณ์เห็นว่าคุณมีความพร้อม และต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทนั้นอย่างแท้จริง
สำหรับข้อแนะนำเพิ่มเติมในฐานะ Consultant ของบริษัทจัดหางาน Pasona คือเรื่องของการรักษามารยาทในการสมัครงาน ควรมีความสำรวม ให้เกียรติผู้สัมภาษณ์ สบตาอย่างจริงใจ ไม่หลบสายตา แต่ไม่จ้องตาจนเกินงาม เป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส กระตือรือร้น เป็นผู้พูด และผู้ฟังที่ดี มีความมั่นใจในตัวเอง แต่ก็ยังคงความนอบน้อม หรือสรุปง่ายๆก็คือ เราควรเป็นตัวของตัวเองในแบบที่ดีที่สุดค่ะ
นอกจากนี้ หลังจากที่คุณได้เตรียมตัวในการสัมภาษณ์งานมาอย่างดีแล้ว แต่ดันมาเจอคำถามที่ไม่คาดคิดว่าจะถูกผู้สัมภาษณ์ถาม ก็เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน งั้นลองมาเตรียมพร้อมสำหรับคำถามแปลกๆกันบ้าง เพื่อเตรียมความพร้อมให้เรารู้สึกมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
ขอยกตัวอย่างคำถามแปลกๆ จากเว็บไซต์ JobThai.com/REACH ดังต่อไปนี้ค่ะ
ทำไมฝาท่อระบายน้ำต้องเป็นรูปวงกลม ?
ทั้งคำถาม “ทำไมฝาท่อระบายน้ำต้องเป็นวงกลม” และคำถามว่า “คุณจะเคลื่อนย้ายภูเขาไฟฟูจิได้อย่างไร” ต่างก็เคยปรากฏในเนื้อหาของหนังสือที่มีชื่อว่า “How Would You Move Mount Fuji? Microsoft’s Cult of the Puzzle: How the World’s Smartest Company Selects the Most Creative Thinkers” ซึ่งแค่ชื่อหนังสือก็พอจะบอกได้ว่าองค์กรไอทีระดับโลกอย่าง Microsoft นั้นมีกระบวนการสัมภาษณ์งานที่โหดหินเพียงใด เพราะพวกเขามักจะสอดแทรกคำถามเชิงตรรกศาสตร์และคำถามเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาลงไปในรายการคำถามสำหรับคัดเลือกผู้สมัครงานด้วย
เมื่อเจอคำถามแบบนี้ คุณต้องอธิบายเหตุผลให้ได้ว่าทำไมถึงคุณถึงตอบแบบนั้น เช่น การตอบคำถาม ว่า “ทำไมฝาท่อระบายน้ำต้องเป็นรูปวงกลม” อาจจะอธิบายว่าฝาที่เป็นวงกลมจะทำให้กรอบของท่อนั้นแข็งแรงเพราะมีการกระจายน้ำหนักเท่ากันโดยรอบ ซึ่งต่างจากฝารูปร่างอื่น ๆ เช่น รูปสี่เหลี่ยม หรือฝาท่อแบบวงกลมไม่มีทางที่จะหล่นลงไปในท่อได้ ซึ่งฝาท่อรูปทรงสี่เหลี่ยมมีโอกาสจะตกลงไปได้หากถ้าฝาท่อสี่เหลี่ยมถูกพลิกด้านข้าง หรือคำตอบอะไรก็ได้ที่แสดงว่าคุณคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล เชื่อมโยงและสนับสนุนกับคำตอบของคุณ
ถ้าคุณเป็นก้อนอิฐในกำแพง คุณอยากจะเป็นก้อนอิฐก้อนไหน และทำไม?
คำถามที่ว่า “ถ้าคุณเป็นก้อนอิฐในกำแพง คุณอยากจะเป็นก้อนอิฐก้อนไหนและทำไม” หรือคำถามว่า “หากคุณเลือกเป็นสัตว์ได้หนึ่งชนิด คุณอยากเป็นอะไรและทำไม” คำถามเหล่านี้มีไว้เพื่อให้คุณได้แสดงบุคลิกภาพของคุณ คำตอบของคุณจะบ่งบอกนิสัยและคุณสมบัติบางอย่าง
เมื่อคุณเจอคำถามประเภทนี้คุณต้องคิดให้รวดเร็วและรอบคอบ จากนั้นจึงตอบคำถามโดยอาศัยสิ่งที่คุณมีอยู่หรือสิ่งที่คุณได้ทำการบ้านล่วงหน้ามาก่อน เช่น ถ้าคุณเตรียมตัวตอบคำถามประเภทข้อดี–ข้อเสียของตัวคุณ คุณสามารถนำการตอบแบบนั้นมาผสมผสานกับการตอบคำถามประเภทนี้ได้ ถ้าจะตอบคำถามว่า “อยากเป็นอิฐก้อนไหน” คุณอาจจะตอบว่า “ฉันอยากจะเป็นอิฐก้อนแรกที่อยู่ที่ฐานล่างสุดของกำแพง เพราะฉันเป็นคนที่หนักแน่น คนอื่นไว้วางใจได้ ถ้าใครได้ทำงานด้วยก็มั่นใจได้เลยว่าฉันจะไม่ทำให้ผิดหวัง ฉันจะคอยเป็นฐานที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุนคนอื่น ๆ ในทีมเอง”
อย่าลืมว่าท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าคำถามจะแปลกแค่ไหน คิด พิจารณาทุกอย่างให้ดีก่อนตอบคำถามนั้นออกไป เพราะทุกคำถามก็เป็นไปเพื่อการทดสอบความเหมาะสมของคุณกับตำแหน่งงานนั้น ๆ อยู่ดี
นอกจากนี้ทาง Pasona ยังมีคำถามสัมภาษณ์งานโดยรวบรวมจาก Consultant ชาวญี่ปุ่นมาฝากให้กับผู้สมัครงานที่สนใจสมัครงานกับบริษัทญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ หากคุณกำลังสนใจ หรือกำลังได้สัมภาษณ์กับบริษัทญี่ปุ่น เราขอแนะนำให้ลองฝึกตอบคำถามดังต่อไปนี้ค่ะ
- แนะนำตัวเองอะไรก็ได้ ภายในหนึ่ง หรือ สองนาที
- ทำไมถึงอยากร่วมงานกับเรา
- คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง
- จงบอกข้อดี ข้อเสียของคุณ
เทคนิค คือ ควรตอบข้อเสียที่มาพร้อมกับแผนการว่าจะพัฒนา หรือแก้ไขข้อเสียได้อย่างไร
- กิจกรรมที่เข้าร่วมในขณะเรียนมหาลัย หรือประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา เช่น จิตอาสา กีฬา หรือทำPart Time เพื่อดูประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร ว่าผู้สมัครมีความเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นๆหรือไม่
- เนื้อหาข่าวที่ผู้สมัครสนใจ เช่น ข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สำหรับตำแหน่งงานทั่วไป ว่าเป็นคนสนใจเหตุการณ์ รอบรู้หรือไม่ ผู้สมัครควรมีความรู้เกี่ยวกับข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สังคม อย่างใดอย่างหนึ่ง
- ระยะเวลาในการทำงาน เทคนิคการตอบคือ ควรมีความตั้งใจที่จะทำงานกับทางบริษัทมากกว่าห้าปี
- ในการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้าย บริษัทอาจจะถามว่า บริษัทของเราเป็นที่ที่คุณให้ความสำคัญ หรืออยากร่วมงานเป็นอันดับแรกหรือไม่ ผู้สมัครไม่ควรตอบไปว่าสัมภาษณ์หลายที่ ควรมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมงานกับทางบริษัทจริงๆ
- มีคำถามอะไรอยากจะถามเรารึเปล่า เป็นคำถามเพื่อวัดว่าสนใจบริษัทเรา หรืองานนั้นจริงๆหรือไม่
จะเห็นได้ว่าคำถามที่สัมภาษณ์ในไทย กับญี่ปุ่นจะค่อนข้างคล้ายกัน มีจุดแตกต่างเพียงกันเล็กน้อย คือ เรื่องของความสนใจเกี่ยวกับข่าวสารบ้านเมือง เพื่อดูว่าเป็นคนสนใจสิ่งรอบตัว หรือพอมีความรู้รอบตัวบ้างหรือไม่ และเรื่องของระยะเวลาการทำงานที่ทางญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับความจงรักภักดีในองค์กร โดยคาดหวังให้พนักงานทำงานกับบริษัทไปนานๆ
แต่จะให้ฝึกตอบคำถามทั่วไปแบบนี้ ก็อาจจะธรรมดาไปหน่อย ทาง Pasona จึงได้นำแนวคำถามแปลกๆในการสัมภาษณ์งานจากทางญี่ปุ่นบางส่วนมาให้ผู้สมัครงานฝึกตอบคำถามกันด้วยค่ะ
- ให้พรีเซ็นท์ หรือหาวิธีเพื่อเปลี่ยนทัศนคติของผู้สัมภาษณ์ เช่น เป็นคนไม่ชอบเขียนจดหมาย ทำอย่างไรให้ชอบเขียนจดหมาย หรือ ไม่ชอบดูหนัง จะนำเสนอยังไงให้ชอบดูหนัง
- มีรูปมาให้ เป็นวัสดุหนึ่งชิ้น แล้วถามว่า สิ่งนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง ให้บอกมา 10 ข้อ (คำถามในการสมัครบริษัทให้คำปรึกษา เป็นแบบ brainstorm เพื่อดูทักษะความคิดสร้างสรรค์ และการคิดเชิงตรรกะ
- ให้ผู้สมัครงานเป็นผู้สัมภาษณ์คนของบริษัท หลังจากเป็นผู้ถูกสัมภาษณ์ ให้สลับบทบาทกัน เพื่อดูว่าผู้สมัครงานเตรียมความพร้อมมามากแค่ไหน
และอีกหนึ่งคำถามที่น่าสนใจในด้านกระบวนการคิดคำนวณ จากบริษัท Consulting ที่จะขอยกตัวอย่างมาจากเว็บไซต์ JobThai.com/REACH ค่ะ
- ในประเทศญี่ปุ่นมีร้านทำผมสตรีกี่ร้าน
คนสัมภาษณ์ต้องการเปิดโอกาสให้คุณได้แสดงทักษะและกระบวนการคิดของคุณ เมื่อคุณถูกถามแบบนี้ คุณต้องเรียบเรียงความคิดของคุณออกมาเป็นคำพูดให้ดี คุณอาจจะเริ่มด้วยการวิเคราะห์ เช่น เราต้องรู้จำนวนประชากรของประเทศญี่ปุ่นก่อน และเราต้องค้นหาว่าคนญี่ปุ่นทำผมคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของคนทั้งประเทศและพวกเขาทำผมบ่อยแค่ไหน
ซึ่งบ่อยครั้งที่ผู้สมัครมักจะตอบคำถามที่เหนือความคาดหมายไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้เตรียมความพร้อมสำหรับคำถามเหล่านี้มา เราจึงควรฝึกตอบคำถามที่มีความแปลก และไม่คาดคิดว่าจะถูกถามไว้ด้วย โดยเริ่มฝึกจากคำถามที่ทาง Pasona ได้ยกตัวอย่างมา และจากเว็บไซต์ต่างๆเพิ่มเติมได้ค่ะ เพื่อที่ว่าเราจะได้มีสกิลในการตอบคำถามเพิ่มขึ้น และไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป
เมื่อเรารู้แนวทางการสัมภาษณ์งานแล้ว ก็อย่าชะล่าใจเชียวค่ะ รีบมาฝึกตอบคำถามเพื่อเตรียมความพร้อมในการสัมภาษณ์งานกันดีกว่า เพราะถ้าเราหมั่นฝึกฝนตัวเองจนมีความพร้อมแล้ว รบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง เช่นเดียวกันกับการสมัครงานค่ะ ถ้าเราหมั่นฝึกตอบคำถามควบคู่ไปกับการฝึกฝนทักษะต่างๆอย่างสม่ำเสมอ สมัครงานกี่ครั้งก็ผ่านทุกครั้งแน่นอนค่ะ ทาง Pasona ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่กำลังจะได้สัมภาษณ์งานได้งานที่ตรงกับใจต้องการกันนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง

“ความโปร่งใสของเงินเดือน”ปัจจัยที่มีผลต่อแรงบันดาลใจในการทำงาน
“การจ่ายค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกับงานที่ให้”—เงื่อนไขง่ายๆที่รู้กันอยู่แล้วในโลกของการทำงาน

“คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”อีกหนึ่งคำถามที่มักถูกถามในการสัมภาษณ์งาน
ในการเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน สิ่งสำคัญก็คือการเตรียมคำตอบสำหรับคำถามที่มักถูกถามในห้องสัมภาษณ์ คำถามหนึ่งที่เห็นได้บ่อยครั้งก็คือ “คุณคิดว่าในอีก 10 ปีคุณจะเป็นอย่างไร”

ตอบอย่างไรให้ดูดี กับคำถามสัมภาษณ์”เงินเดือนที่คุณคาดหวัง”
เพื่อหางานที่มีลักษณะและเงินเดือนที่เหมาะสมกับความต้องการ การต่อรองเงินเดือนมักไม่ได้เกิดขึ้นในขั้นตอนที่บริษัทตัดสินใจจ้างงาน มักเกิดขึ้นในหลายๆขั้นตอนก่อนหน้านั้น
สอบถามเพิ่มเติม
เกี่ยวกับบริการของเรา