
คุยกับ ผู้จัดการโครงการ แผนกส่งเสริมเครือข่ายธุรกิจ ฝ่ายวางแผนองค์กร
บริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด … คุณรัตนโชติ อิงคนันทวารี
ช่วยเล่าถึงบริษัทที่กำลังทำอยู่ให้พวกเราฟังหน่อยได้ไหมคะ?
ได้เลยครับ ตอนนี้ผมทำงานอยู่ที่บริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด เราเป็นบริษัทเทรดดิ้งในเครือโตโยต้า มีความเชี่ยวชาญทางด้าน supply chain ในธุรกิจยานยนต์ ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เริ่มตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การนำเข้าและส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ การบริหารจัดการสต๊อก ขนส่งวัตถุดิบและสินค้าให้กับบริษัทรถยนต์ บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ต่างๆ จนถึง การเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า การรีไซเคิลเศษเหล็กที่เหลือจากการผลิต นอกจากธุรกิจยานยนต์แล้ว เรายังทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายเครื่องจักร สินค้าอุปโภคบริโภค และอาหาร เป็นต้น อีกด้วย เรียกได้ว่าธุรกิจที่เราทำอยู่ค่อนข้างที่จะหลากหลายเลยทีเดียว
ทำไมถึงเลือกทำงานกับบริษัทญี่ปุ่น?
ตัวผมเองหลังเรียนจบก็มีโอกาสได้ทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นก่อนที่จะกลับมาไทย ผมชอบวิธีการทำงานของบริษัทญี่ปุ่นที่ทำงานเป็นระบบ เน้นการทำงานเป็นทีม ที่ชอบที่สุดคือการที่บริษัทญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ career path การให้โอกาสคนในการทำงาน
การโยกย้ายคนให้ไปเรียนรู้และทำงานในหลากหลายสายงานโดยคำนึงถึงความสนใจ ความถนัด ประสบการณ์และการเติบโตของพนักงานในอนาคต สำหรับบริษัทญี่ปุ่นการจ้างคนๆหนึ่งมีความสำคัญมาก เพราะ บริษัทญี่ปุ่นเชื่อว่าคนคือทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของบริษัท ซึ่งก็ตรงกับความคาดหวังของเราต่อตัวบริษัทพอดี ก็เลยเลือกทำงานกับบริษัทญี่ปุ่นครับ
แล้วบรรยากาศการทำงานในบริษัทที่ทำอยู่เป็นอย่างไรคะ?
ถึงแม้ว่าบริษัทเราจะเป็นองค์กรใหญ่ มีพนักงานกว่า 600 คน (ถ้ารวมบริษัทในเครือด้วยแล้วมีพนักงานกว่า 8,000 คน) แต่เราเป็นองค์กรที่ผู้บริหารและพนักงานสามารถเข้าถึงกันได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนญี่ปุ่น พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองให้ผู้บริหารรับรู้ได้ นอกจากนี้พนักงานยังได้รับโอกาส และความท้าทายใหม่ๆในการทำงานอยู่เสมอ ถือว่าบรรยากาศการทำงานดีเลยทีเดียวครับ
ปัจจุบันเพื่อให้เกิดความคิดใหม่ๆในการทำงานมากขึ้น บริษัทเราเริ่มมีการนำ co-working space แบบ free address มาใช้แทนการนั่งทำงานที่โต๊ะประจำของตนเอง คือพนักงานสามารถที่จะไปนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ในแต่ละวัน เพราะแต่ละวันเราอาจจะมีความจำเป็นต้องทำงานกับเพื่อนร่วมงานไม่เหมือนกัน หรืออาจจะอยากคุยกับเพื่อนร่วมงานท่านอื่นเพื่อให้เกิดไอเดียในการทำงานต่างๆ การนำ co-working space แบบ free address มาใช้ทำให้เกิดการสื่อสารระหว่างพนักงาน หรือการสื่อสารข้ามแผนกมากขึ้นครับ

ตอนนี้คุณโชติทำงานอยู่ในแผนกอะไร? รับผิดชอบในส่วนไหนเป็นพิเศษคะ?
ผมทำอยู่ฝ่ายวางแผนองค์กร แผนกส่งเสริมเครือข่ายธุรกิจ ครับ เป็นแผนกที่มีหน้าที่ในการหาโอกาสและพัฒนาธุรกิจใหม่ๆให้กับบริษัท ยกตัวอย่างเช่น เรานำสินค้าจากประเทศไทยไปเปิดตลาดใหม่ที่ทวีปแอฟริกา หรือเรานำเข้าอุปกรณ์การแพทย์และอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย นอกจากนี้เรายังทำธุรกิจเกี่ยวกับ IoT (Internet of Things) ซึ่งเป็นระบบที่นำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการโรงงานด้วยครับ
ตอนนี้ผมได้รับมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบในส่วนของธุรกิจ Next Mobility เป็นพิเศษ คือเป็นการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในอนาคต เนื่องจากความต้องการทางสังคม และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปทำให้ในอนาคต อุตสาหกรรมยานยนต์ที่เราเชี่ยวชาญอาจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ยกตัวอย่างเช่น เมื่อก่อนคนอยากมีรถเป็นของตัวเอง แต่ต่อไปถ้า Sharing Business เริ่มพัฒนาและมีความแพร่หลายมากขึ้น คนอาจจะไปใช้รถร่วมกับคนอื่น แทนที่จะซื้อรถเป็นของตัวเอง ซึ่งก็อาจจะทำให้ยอดขายรถน้อยลง หรือในอนาคตมีแนวโน้มว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมาแทนที่รถที่ใช้น้ำมันหรือรถที่ใช้เครื่องยนต์ ซึ่งจะทำให้ยอดขายอะไหล่หรือวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตรถยนต์มีโอกาสที่จะลดลงไปด้วย เพราะฉะนั้นเราก็ต้องปรับตัว สร้างธุรกิจใหม่ๆ และเนื่องจากเรามีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์นอยู่แล้ว เราก็อยากจะใช้ความรู้ ความถนัดของเราตรงนี้มาต่อยอดในการพัฒนาสร้างธุรกิจใหม่ๆเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมที่เปลี่ยนไปโดยการนำเทคโนโลยีด้านไอทีเข้ามาใช้ให้มากขึ้นครับ
ความรับผิดชอบเยอะขนาดนี้ คุณโชติมีความเครียดหรือความกดดันในการทำงานบ้างไหมคะ?
เครียดและกดดันในระดับนึงล่ะครับ (หัวเราะ) แต่เรียกว่าอยู่ในระดับที่กำลังดีให้เป็นแรงผลักดันในการทำงานดีกว่า อย่างที่ผมบอกว่าตอนนี้บริษัทของเราอยู่ในช่วงของการปรับตัว การพัฒนาหาธุรกิจใหม่ๆเพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนถือเป็นภารกิจที่สำคัญ ซึ่งผมได้รับมอบหมายให้เข้ามาดูแลรับผิดชอบตรงนี้ก็อยากจะทำให้ดีที่สุดครับ

ทำงานมาปีกว่า คุณโชติมีผลงานอะไรที่ภูมิใจอยากจะแบ่งปันให้พวกเราทราบไหมคะ?
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้ปิดดีลในการลงทุนในบริษัท Flare ไปครับ เป็นบริษัท start-up ของญี่ปุ่นที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย โดยผู้ก่อตั้งเห็นว่า ประเทศเรารถติด น่าจะเปลี่ยนช่วงเวลาที่รถติด หงุดหงิดบนท้องถนนให้เป็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับคนขับรถ จากแรงบันดาลใจนั้นทำให้เริ่มพัฒนา platform เชื่อมโยงระหว่างคนที่อยากโฆษณาสติ๊กเกอร์ติดบนรถยนต์กับคนที่มีรถแล้วอยากจะสร้างรายได้เสริมให้มาเจอกันบนมือถือ เราลงทุนกับเขาไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพราะเล็งเห็นว่าธุรกิจของบริษัท Flare และธุรกิจต่างๆของเราสามารถที่จะส่งเสริมและต่อยอดไปด้วยกันได้ ซึ่งก่อนที่เราจะตัดสินใจลงทุนก็มีขั้นตอนต่างๆพอสมควรตั้งแต่การศึกษาตัวธุรกิจว่ามีศักยภาพที่จะโตหรือเปล่า? เราลงทุนกับเขาแล้วเราจะได้อะไร? รวมถึงการต่อรองเรื่องของราคาหุ้น เงื่อนไขในสัญญาผู้ถือหุ้น เป็นต้น ซึ่งผมก็ดูแลโปรเจคนี้มาตั้งแต่ต้นจนจบครับ
คุณโชติมองตัวเองในอีก 5 ปี 10 ปีไว้ยังไงคะ?
ในเบื้องต้นผมอยากรับผิดชอบหน้าที่ที่ทำอยู่ในปัจจุบันให้ดีที่สุด โดยตั้งเป้าหมายว่าอยากสร้างธุรกิจใหม่ๆให้กับบริษัท ซึ่งเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน สามารถทำเงินให้กับบริษัทได้จริงๆ ไม่ใช่แค่ปีสองปีแล้วยอดขายก็ตกลงไป ผมตั้งใจว่าอยากจะนำ digitalization/ digital transformation เข้ามาประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจใหม่ๆให้มากขึ้นด้วย
ส่วนในระยะยาว 10 ปีข้างหน้า ถ้าตนเองมีความสามารถพอและได้รับโอกาส ผมก็อยากจะขึ้นมาเป็น key person คนนึงของบริษัทในการที่จะขับเคลื่อนองค์กร เป็นหนึ่งในคนที่กำหนดทิศทางของบริษัทครับ
สิ่งสำคัญที่สุดในการทำงานสำหรับคุณโชติคืออะไรคะ?
PASSION ครับ ผมคิดว่าการที่เราทำอะไรซักอย่างนึงจะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่เป็นจุดเริ่มต้น และเป็นตัวขับเคลื่อนทุกอย่างก็คือ PASSION ผมเชื่อว่าถ้าเรามี PASSION ในการทำงาน ถึงแม้ว่าจะเป็นงานที่ยาก เจออุปสรรคมากมาย แต่เราก็จะพยายามหาความรู้ ทำตัวเองให้เก่งขึ้น เพื่อทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ครับ

ทำไมคุณโชติถึงเลือกใช้บริษัทจัดหางานในการหางานคะ?
ผมรู้สึกว่าตัวเลือกของเรามีเยอะ บางบริษัทเราอาจจะเข้าถึงได้จากทางอินเตอร์เน็ต แต่บางบริษัทเราก็อาจจะเข้าไม่ถึง หรือบางทีเราอาจจะยังไม่แน่ใจว่าบริษัทไหนหรืองานประเภทไหนเหมาะกับเรา บางทีอาจจะไม่รู้ว่าด้วยซ้ำว่าควรจะเริ่มหางานใหม่ยังไงดี ผมรู้สึกว่า บริษัทจัดหางาน อย่างพาโซน่า สามารถที่จะตอบโจทย์ตรงนี้ได้ หนึ่ง คือบริษัทจัดหางานสามารถคัดกรองบริษัทให้กับเราได้ ว่าบริษัทไหนที่เหมาะกับเรา โดยเราสามารถแจ้งบริษัทหรือสายงานที่สนใจให้กับผู้ช่วยที่ดูแลเราได้ สองคือ บริษัทจัดหางานจะมีคอนเน็คชั่นกับบริษัทจำนวนมาก เป็นช่องทางให้เราสามารถเข้าถึงบริษัทที่เราสนใจได้ดีกว่าและเร็วกว่า ไม่เหมือนกับการที่เราสมัครโดยตรงผ่านอินเตอร์เน็ตแล้วก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรทางบริษัทต่างๆจะตอบกลับมา แต่ถ้าหากติดต่อผ่านบริษัทจัดหางานอย่างพาโซน่า พาโซน่าอาจจะให้ฟีดแบ็คกลับมาภายในสองหรือสามวัน สามคือ บริษัทจัดหางานสามารถให้คำแนะนำคำปรึกษาเกี่ยวกับการหางานได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเลือกบริษัท สายงาน การเตรียมตัวไปสัมภาษณ์ และหลังสัมภาษณ์ ถือว่าบริษัทจัดหางานเป็นตัวเลือกนึงที่ช่วยให้เราหางานได้ง่ายขึ้นครับผม
รู้จักพาโซน่าได้อย่างไร?
รุ่นพี่ที่เคยใช้แนะนำและบอกต่อๆกันมาครับ
บริการของพาโซน่าเป็นอย่างไรบ้างคะ? (หัวเราะ)
บริษัทพาโซน่ามีความเป็นมืออาชีพมากครับ ตั้งแต่การลงทะเบียน และหลังลงทะเบียน ผมจำได้ว่าเพียงวันเดียว เจ้าหน้าที่ก็ติดต่อกลับมาแล้ว ตอนนั้นผมยังอยู่ที่ญี่ปุ่นก็มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของพาโซน่าว่า อยากได้งานประเภทไหน สนใจบริษัทไหน จริงๆผมก็ไม่ได้ใช้พาโซน่า (ในการหางาน) ที่เดียว มีใช้บริษัทจัดหางานเจ้าอื่นด้วย แต่ผมรู้สึกว่าพาโซน่ามีการติดตามที่เร็ว เมื่อเทียบกับที่อื่น มีคอนเน็คชั่นกับบริษัทต่างๆในหลากหลายประเภทธุรกิจ บางบริษัทมีคอนเน็คชั่นถึงผู้บริหารเลย ซึ่งก็ทำให้ได้เจอตำแหน่งงานที่ไม่ได้มีประกาศไว้ในหน้าเว็บหางานต่างๆ นอกจากนี้ก่อนไปสัมภาษณ์กับทางบริษัท พาโซน่าก็มีคำแนะนำให้ด้วยว่า คำถามที่จะเจอในการสัมภาษณ์มีอะไรบ้าง และหลังสัมภาษณ์ก็มีการฟีดแบ็คให้อย่างรวดเร็ว ผมรู้สึกว่าพาโซน่ามีการ follow up ที่ดี ตั้งแต่ก่อนจะไปสัมภาษณ์ หลังสัมภาษณ์ และก็ไปจนถึงหลังได้ job offer แล้วด้วยครับ
เวลาว่างคุณโชติชอบทำอะไรคะ?
ผมชอบออกกำลังกายครับ เมื่อก่อนชอบเตะฟุตบอลมาก หลังจากกลับมาเมืองไทยก็เริ่มวิ่งกับตีแบดฯ ส่วนวันหยุดยาวก็มีไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้างครับ
อะไรทำให้มีความสุข?
การได้ใช้เวลากับครอบครัวหรือกับเพื่อนครับ เพื่อนๆหลายคนก็เริ่มไปมีครอบครัว บางคนก็เริ่มมีลูกกันแล้ว บางคนลูกโตแล้วก็มีครับ (หัวเราะ).
ทำให้ความถี่ในการเจอกันน้อยลงกว่าเมื่อก่อนมาก การได้เจอเพื่อน คุยกันถึงเรื่องเก่าๆ อัปเดตชีวิต แลกเปลี่ยนมุมมองถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกัน ก็ทำให้รู้สึกดีครับ
สุดท้ายนี้ คุณโชติมีอะไรอยากฝากไว้ให้ผู้อ่านไหม?
ครับ เรื่องของการหางาน ผมเข้าใจว่ามีหลายช่องทาง เราอาจจะหาเองจากอินเตอร์เน็ต ขอคำแนะนำจากเพื่อนๆหรือคนรู้จัก แต่ว่าการใช้บริษัทจัดหางานก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้เราหางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้งานที่ถูกใจ แล้วก็รวดเร็วมากขึ้น บริษัทพาโซน่ามีความเป็นมืออาชีพมาก ๆ มีคอนเน็ตชั่นกับหลากหลายบริษัทในหลายประเภทธุรกิจ ทั้งบริษัทญี่ปุ่น บริษัทไทยและบริษัทต่างชาติอื่นๆ อีกทั้งยังมีการ follow up ที่ดีทั้งก่อนการสัมภาษณ์และหลังสัมภาษณ์จนกระทั่งหลังได้ job offer ก็อยากจะฝากบริษัทพาโซน่าไว้ด้วยครับ
Related Articles

7 ลักษณะการทำงานแบบญี่ปุ่นที่คนไทยในองค์กรญี่ปุ่นต้องทำความเข้าใจและปรับตัว
หากคุณสนใจหรือต้องการที่จะทำงานในองค์กรของญี่ปุ่น ก็ควรทำความเข้าใจและรู้ลักษณะการทำงานตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่นทุกคน

10 คำถามที่มักถูกหยิบขึ้นมาระหว่างการสัมภาษณ์งานของบริษัทญี่ปุ่น
ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดและเรียกได้ว่าเป็นจุดตัดสินในการได้เข้าทำงานโดยเฉพาะในบริษัทญี่ปุ่นก็คือ “การสัมภาษณ์” ซึ่งจากประสบการณ์ในการดูแลผู้หางานจำนวนมาก มีผู้สมัครจำนวนไม่น้อยเลยที่มีความสามารถมากอยู่ในตัวแต่ต้องพลาดไปอย่างน่าเสียดายเพราะว่าตอบคำถามได้ไม่ชัดเจนหรือคิดคำตอบระหว่างสัมภาษณ์ได้ไม่ดีนัก

[เตรียมสัมภาษณ์งานออนไลน์ในช่วง Covid-19]
การสมัครงานทุกวันนี้ มีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ด้วยความทันสมัย และเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้เราสามารถสมัครงานผ่านเว็บไซต์ได้ หรือส่งประวัติผ่านอีเมลล์ได้ แต่ขั้นตอนสำคัญที่สุดในการที่เราจะได้ร่วมงานกับบริษัทที่เราใฝ่ฝัน ก็คือ การสัมภาษณ์งาน ซึ่งเราจะได้มีโอกาสเข้ามาดูบรรยากาศการทำงาน สถานที่ทำงาน รวมถึงได้พบกับบุคคลากรของบริษัทนั้นๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่เราจะได้แสดงตัวตนของเรา และสร้างความประทับใจให้กับบริษัทได้โดยตรง
To learn more about our services
Thailand Head Quarter
26th Floor, Sathorn Square
Office Tower,
98 North Sathorn Road, Silom,
Bangrak, Bangkok 10500, Thailand
TEL: +662-108-1250
E-mail: info@pasona.co.th
คุยกับ ผู้จัดการโครงการ แผนกส่งเสริมเครือข่ายธุรกิจ ฝ่ายวางแผนองค์กร
บริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด … คุณรัตนโชติ อิงคนันทวารี
ช่วยเล่าถึงบริษัทที่กำลังทำอยู่ให้พวกเราฟังหน่อยได้ไหมคะ?
ได้เลยครับ ตอนนี้ผมทำงานอยู่ที่บริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด เราเป็นบริษัทเทรดดิ้งในเครือโตโยต้า มีความเชี่ยวชาญทางด้าน supply chain ในธุรกิจยานยนต์ ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เริ่มตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การนำเข้าและส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ การบริหารจัดการสต๊อก ขนส่งวัตถุดิบและสินค้าให้กับบริษัทรถยนต์ บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ต่างๆ จนถึง การเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า การรีไซเคิลเศษเหล็กที่เหลือจากการผลิต นอกจากธุรกิจยานยนต์แล้ว เรายังทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายเครื่องจักร สินค้าอุปโภคบริโภค และอาหาร เป็นต้น อีกด้วย เรียกได้ว่าธุรกิจที่เราทำอยู่ค่อนข้างที่จะหลากหลายเลยทีเดียว
ทำไมถึงเลือกทำงานกับบริษัทญี่ปุ่น?
ตัวผมเองหลังเรียนจบก็มีโอกาสได้ทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นก่อนที่จะกลับมาไทย ผมชอบวิธีการทำงานของบริษัทญี่ปุ่นที่ทำงานเป็นระบบ เน้นการทำงานเป็นทีม ที่ชอบที่สุดคือการที่บริษัทญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ career path การให้โอกาสคนในการทำงาน
การโยกย้ายคนให้ไปเรียนรู้และทำงานในหลากหลายสายงานโดยคำนึงถึงความสนใจ ความถนัด ประสบการณ์และการเติบโตของพนักงานในอนาคต สำหรับบริษัทญี่ปุ่นการจ้างคนๆหนึ่งมีความสำคัญมาก เพราะ บริษัทญี่ปุ่นเชื่อว่าคนคือทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของบริษัท ซึ่งก็ตรงกับความคาดหวังของเราต่อตัวบริษัทพอดี ก็เลยเลือกทำงานกับบริษัทญี่ปุ่นครับ
แล้วบรรยากาศการทำงานในบริษัทที่ทำอยู่เป็นอย่างไรคะ?
ถึงแม้ว่าบริษัทเราจะเป็นองค์กรใหญ่ มีพนักงานกว่า 600 คน (ถ้ารวมบริษัทในเครือด้วยแล้วมีพนักงานกว่า 8,000 คน) แต่เราเป็นองค์กรที่ผู้บริหารและพนักงานสามารถเข้าถึงกันได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนญี่ปุ่น พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองให้ผู้บริหารรับรู้ได้ นอกจากนี้พนักงานยังได้รับโอกาส และความท้าทายใหม่ๆในการทำงานอยู่เสมอ ถือว่าบรรยากาศการทำงานดีเลยทีเดียวครับ
ปัจจุบันเพื่อให้เกิดความคิดใหม่ๆในการทำงานมากขึ้น บริษัทเราเริ่มมีการนำ co-working space แบบ free address มาใช้แทนการนั่งทำงานที่โต๊ะประจำของตนเอง คือพนักงานสามารถที่จะไปนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ในแต่ละวัน เพราะแต่ละวันเราอาจจะมีความจำเป็นต้องทำงานกับเพื่อนร่วมงานไม่เหมือนกัน หรืออาจจะอยากคุยกับเพื่อนร่วมงานท่านอื่นเพื่อให้เกิดไอเดียในการทำงานต่างๆ การนำ co-working space แบบ free address มาใช้ทำให้เกิดการสื่อสารระหว่างพนักงาน หรือการสื่อสารข้ามแผนกมากขึ้นครับ

ตอนนี้คุณโชติทำงานอยู่ในแผนกอะไร? รับผิดชอบในส่วนไหนเป็นพิเศษคะ?
ผมทำอยู่ฝ่ายวางแผนองค์กร แผนกส่งเสริมเครือข่ายธุรกิจ ครับ เป็นแผนกที่มีหน้าที่ในการหาโอกาสและพัฒนาธุรกิจใหม่ๆให้กับบริษัท ยกตัวอย่างเช่น เรานำสินค้าจากประเทศไทยไปเปิดตลาดใหม่ที่ทวีปแอฟริกา หรือเรานำเข้าอุปกรณ์การแพทย์และอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย นอกจากนี้เรายังทำธุรกิจเกี่ยวกับ IoT (Internet of Things) ซึ่งเป็นระบบที่นำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการโรงงานด้วยครับ
ตอนนี้ผมได้รับมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบในส่วนของธุรกิจ Next Mobility เป็นพิเศษ คือเป็นการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในอนาคต เนื่องจากความต้องการทางสังคม และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปทำให้ในอนาคต อุตสาหกรรมยานยนต์ที่เราเชี่ยวชาญอาจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ยกตัวอย่างเช่น เมื่อก่อนคนอยากมีรถเป็นของตัวเอง แต่ต่อไปถ้า Sharing Business เริ่มพัฒนาและมีความแพร่หลายมากขึ้น คนอาจจะไปใช้รถร่วมกับคนอื่น แทนที่จะซื้อรถเป็นของตัวเอง ซึ่งก็อาจจะทำให้ยอดขายรถน้อยลง หรือในอนาคตมีแนวโน้มว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมาแทนที่รถที่ใช้น้ำมันหรือรถที่ใช้เครื่องยนต์ ซึ่งจะทำให้ยอดขายอะไหล่หรือวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตรถยนต์มีโอกาสที่จะลดลงไปด้วย เพราะฉะนั้นเราก็ต้องปรับตัว สร้างธุรกิจใหม่ๆ และเนื่องจากเรามีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์นอยู่แล้ว เราก็อยากจะใช้ความรู้ ความถนัดของเราตรงนี้มาต่อยอดในการพัฒนาสร้างธุรกิจใหม่ๆเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมที่เปลี่ยนไปโดยการนำเทคโนโลยีด้านไอทีเข้ามาใช้ให้มากขึ้นครับ
ความรับผิดชอบเยอะขนาดนี้ คุณโชติมีความเครียดหรือความกดดันในการทำงานบ้างไหมคะ?
เครียดและกดดันในระดับนึงล่ะครับ (หัวเราะ) แต่เรียกว่าอยู่ในระดับที่กำลังดีให้เป็นแรงผลักดันในการทำงานดีกว่า อย่างที่ผมบอกว่าตอนนี้บริษัทของเราอยู่ในช่วงของการปรับตัว การพัฒนาหาธุรกิจใหม่ๆเพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนถือเป็นภารกิจที่สำคัญ ซึ่งผมได้รับมอบหมายให้เข้ามาดูแลรับผิดชอบตรงนี้ก็อยากจะทำให้ดีที่สุดครับ

ทำงานมาปีกว่า คุณโชติมีผลงานอะไรที่ภูมิใจอยากจะแบ่งปันให้พวกเราทราบไหมคะ?
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้ปิดดีลในการลงทุนในบริษัท Flare ไปครับ เป็นบริษัท start-up ของญี่ปุ่นที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย โดยผู้ก่อตั้งเห็นว่า ประเทศเรารถติด น่าจะเปลี่ยนช่วงเวลาที่รถติด หงุดหงิดบนท้องถนนให้เป็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับคนขับรถ จากแรงบันดาลใจนั้นทำให้เริ่มพัฒนา platform เชื่อมโยงระหว่างคนที่อยากโฆษณาสติ๊กเกอร์ติดบนรถยนต์กับคนที่มีรถแล้วอยากจะสร้างรายได้เสริมให้มาเจอกันบนมือถือ เราลงทุนกับเขาไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพราะเล็งเห็นว่าธุรกิจของบริษัท Flare และธุรกิจต่างๆของเราสามารถที่จะส่งเสริมและต่อยอดไปด้วยกันได้ ซึ่งก่อนที่เราจะตัดสินใจลงทุนก็มีขั้นตอนต่างๆพอสมควรตั้งแต่การศึกษาตัวธุรกิจว่ามีศักยภาพที่จะโตหรือเปล่า? เราลงทุนกับเขาแล้วเราจะได้อะไร? รวมถึงการต่อรองเรื่องของราคาหุ้น เงื่อนไขในสัญญาผู้ถือหุ้น เป็นต้น ซึ่งผมก็ดูแลโปรเจคนี้มาตั้งแต่ต้นจนจบครับ
คุณโชติมองตัวเองในอีก 5 ปี 10 ปีไว้ยังไงคะ?
ในเบื้องต้นผมอยากรับผิดชอบหน้าที่ที่ทำอยู่ในปัจจุบันให้ดีที่สุด โดยตั้งเป้าหมายว่าอยากสร้างธุรกิจใหม่ๆให้กับบริษัท ซึ่งเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน สามารถทำเงินให้กับบริษัทได้จริงๆ ไม่ใช่แค่ปีสองปีแล้วยอดขายก็ตกลงไป ผมตั้งใจว่าอยากจะนำ digitalization/ digital transformation เข้ามาประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจใหม่ๆให้มากขึ้นด้วย
ส่วนในระยะยาว 10 ปีข้างหน้า ถ้าตนเองมีความสามารถพอและได้รับโอกาส ผมก็อยากจะขึ้นมาเป็น key person คนนึงของบริษัทในการที่จะขับเคลื่อนองค์กร เป็นหนึ่งในคนที่กำหนดทิศทางของบริษัทครับ
สิ่งสำคัญที่สุดในการทำงานสำหรับคุณโชติคืออะไรคะ?
PASSION ครับ ผมคิดว่าการที่เราทำอะไรซักอย่างนึงจะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่เป็นจุดเริ่มต้น และเป็นตัวขับเคลื่อนทุกอย่างก็คือ PASSION ผมเชื่อว่าถ้าเรามี PASSION ในการทำงาน ถึงแม้ว่าจะเป็นงานที่ยาก เจออุปสรรคมากมาย แต่เราก็จะพยายามหาความรู้ ทำตัวเองให้เก่งขึ้น เพื่อทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ครับ

ทำไมคุณโชติถึงเลือกใช้บริษัทจัดหางานในการหางานคะ?
ผมรู้สึกว่าตัวเลือกของเรามีเยอะ บางบริษัทเราอาจจะเข้าถึงได้จากทางอินเตอร์เน็ต แต่บางบริษัทเราก็อาจจะเข้าไม่ถึง หรือบางทีเราอาจจะยังไม่แน่ใจว่าบริษัทไหนหรืองานประเภทไหนเหมาะกับเรา บางทีอาจจะไม่รู้ว่าด้วยซ้ำว่าควรจะเริ่มหางานใหม่ยังไงดี ผมรู้สึกว่า บริษัทจัดหางาน อย่างพาโซน่า สามารถที่จะตอบโจทย์ตรงนี้ได้ หนึ่ง คือบริษัทจัดหางานสามารถคัดกรองบริษัทให้กับเราได้ ว่าบริษัทไหนที่เหมาะกับเรา โดยเราสามารถแจ้งบริษัทหรือสายงานที่สนใจให้กับผู้ช่วยที่ดูแลเราได้ สองคือ บริษัทจัดหางานจะมีคอนเน็คชั่นกับบริษัทจำนวนมาก เป็นช่องทางให้เราสามารถเข้าถึงบริษัทที่เราสนใจได้ดีกว่าและเร็วกว่า ไม่เหมือนกับการที่เราสมัครโดยตรงผ่านอินเตอร์เน็ตแล้วก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรทางบริษัทต่างๆจะตอบกลับมา แต่ถ้าหากติดต่อผ่านบริษัทจัดหางานอย่างพาโซน่า พาโซน่าอาจจะให้ฟีดแบ็คกลับมาภายในสองหรือสามวัน สามคือ บริษัทจัดหางานสามารถให้คำแนะนำคำปรึกษาเกี่ยวกับการหางานได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเลือกบริษัท สายงาน การเตรียมตัวไปสัมภาษณ์ และหลังสัมภาษณ์ ถือว่าบริษัทจัดหางานเป็นตัวเลือกนึงที่ช่วยให้เราหางานได้ง่ายขึ้นครับผม
รู้จักพาโซน่าได้อย่างไร?
รุ่นพี่ที่เคยใช้แนะนำและบอกต่อๆกันมาครับ
บริการของพาโซน่าเป็นอย่างไรบ้างคะ? (หัวเราะ)
บริษัทพาโซน่ามีความเป็นมืออาชีพมากครับ ตั้งแต่การลงทะเบียน และหลังลงทะเบียน ผมจำได้ว่าเพียงวันเดียว เจ้าหน้าที่ก็ติดต่อกลับมาแล้ว ตอนนั้นผมยังอยู่ที่ญี่ปุ่นก็มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของพาโซน่าว่า อยากได้งานประเภทไหน สนใจบริษัทไหน จริงๆผมก็ไม่ได้ใช้พาโซน่า (ในการหางาน) ที่เดียว มีใช้บริษัทจัดหางานเจ้าอื่นด้วย แต่ผมรู้สึกว่าพาโซน่ามีการติดตามที่เร็ว เมื่อเทียบกับที่อื่น มีคอนเน็คชั่นกับบริษัทต่างๆในหลากหลายประเภทธุรกิจ บางบริษัทมีคอนเน็คชั่นถึงผู้บริหารเลย ซึ่งก็ทำให้ได้เจอตำแหน่งงานที่ไม่ได้มีประกาศไว้ในหน้าเว็บหางานต่างๆ นอกจากนี้ก่อนไปสัมภาษณ์กับทางบริษัท พาโซน่าก็มีคำแนะนำให้ด้วยว่า คำถามที่จะเจอในการสัมภาษณ์มีอะไรบ้าง และหลังสัมภาษณ์ก็มีการฟีดแบ็คให้อย่างรวดเร็ว ผมรู้สึกว่าพาโซน่ามีการ follow up ที่ดี ตั้งแต่ก่อนจะไปสัมภาษณ์ หลังสัมภาษณ์ และก็ไปจนถึงหลังได้ job offer แล้วด้วยครับ
เวลาว่างคุณโชติชอบทำอะไรคะ?
ผมชอบออกกำลังกายครับ เมื่อก่อนชอบเตะฟุตบอลมาก หลังจากกลับมาเมืองไทยก็เริ่มวิ่งกับตีแบดฯ ส่วนวันหยุดยาวก็มีไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้างครับ
อะไรทำให้มีความสุข?
การได้ใช้เวลากับครอบครัวหรือกับเพื่อนครับ เพื่อนๆหลายคนก็เริ่มไปมีครอบครัว บางคนก็เริ่มมีลูกกันแล้ว บางคนลูกโตแล้วก็มีครับ (หัวเราะ).
ทำให้ความถี่ในการเจอกันน้อยลงกว่าเมื่อก่อนมาก การได้เจอเพื่อน คุยกันถึงเรื่องเก่าๆ อัปเดตชีวิต แลกเปลี่ยนมุมมองถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกัน ก็ทำให้รู้สึกดีครับ
สุดท้ายนี้ คุณโชติมีอะไรอยากฝากไว้ให้ผู้อ่านไหม?
ครับ เรื่องของการหางาน ผมเข้าใจว่ามีหลายช่องทาง เราอาจจะหาเองจากอินเตอร์เน็ต ขอคำแนะนำจากเพื่อนๆหรือคนรู้จัก แต่ว่าการใช้บริษัทจัดหางานก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้เราหางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้งานที่ถูกใจ แล้วก็รวดเร็วมากขึ้น บริษัทพาโซน่ามีความเป็นมืออาชีพมาก ๆ มีคอนเน็ตชั่นกับหลากหลายบริษัทในหลายประเภทธุรกิจ ทั้งบริษัทญี่ปุ่น บริษัทไทยและบริษัทต่างชาติอื่นๆ อีกทั้งยังมีการ follow up ที่ดีทั้งก่อนการสัมภาษณ์และหลังสัมภาษณ์จนกระทั่งหลังได้ job offer ก็อยากจะฝากบริษัทพาโซน่าไว้ด้วยครับ
Related Articles

7 ลักษณะการทำงานแบบญี่ปุ่นที่คนไทยในองค์กรญี่ปุ่นต้องทำความเข้าใจและปรับตัว
หากคุณสนใจหรือต้องการที่จะทำงานในองค์กรของญี่ปุ่น ก็ควรทำความเข้าใจและรู้ลักษณะการทำงานตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่นทุกคน

10 คำถามที่มักถูกหยิบขึ้นมาระหว่างการสัมภาษณ์งานของบริษัทญี่ปุ่น
ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดและเรียกได้ว่าเป็นจุดตัดสินในการได้เข้าทำงานโดยเฉพาะในบริษัทญี่ปุ่นก็คือ “การสัมภาษณ์” ซึ่งจากประสบการณ์ในการดูแลผู้หางานจำนวนมาก มีผู้สมัครจำนวนไม่น้อยเลยที่มีความสามารถมากอยู่ในตัวแต่ต้องพลาดไปอย่างน่าเสียดายเพราะว่าตอบคำถามได้ไม่ชัดเจนหรือคิดคำตอบระหว่างสัมภาษณ์ได้ไม่ดีนัก

[เตรียมสัมภาษณ์งานออนไลน์ในช่วง Covid-19]
การสมัครงานทุกวันนี้ มีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ด้วยความทันสมัย และเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้เราสามารถสมัครงานผ่านเว็บไซต์ได้ หรือส่งประวัติผ่านอีเมลล์ได้ แต่ขั้นตอนสำคัญที่สุดในการที่เราจะได้ร่วมงานกับบริษัทที่เราใฝ่ฝัน ก็คือ การสัมภาษณ์งาน ซึ่งเราจะได้มีโอกาสเข้ามาดูบรรยากาศการทำงาน สถานที่ทำงาน รวมถึงได้พบกับบุคคลากรของบริษัทนั้นๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่เราจะได้แสดงตัวตนของเรา และสร้างความประทับใจให้กับบริษัทได้โดยตรง
To learn more about
our services